สื่อที่มีอิทธิพลต่อการสูบบุหรี่ของเด็กและเยาวชน
ผลวิจัยมะกันเผย สื่อมีอิทธพลต่อการตัดสินใจเริ่มสูบบุหรี่ของเยาวชน แนะพ่อแม่ควรควบคุมเวลาดูทีวีของบุตรหลานไม่ให้มากเกินไป ระบุพบการ์ตูนมีเรื่องราวเกี่ยวกับบุหรี่แฝงอยู่มาก และมีผู้อ่านส่วนหนึ่งตัดสินใจสูบบุหรี่ตามการ์ตูน
นพ.ปิยะวงศ์ เศรษฐวงศ์ ได้ศึกษางานวิจัยต่างๆ และพบว่า มีสื่อหลายชนิดที่มีอิทธิพลต่อการสูบบุหรี่ของเด็กและเยาวชนที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหาแนวทางป้องกันและแก้ไข เพื่อให้เด็กและเยาวชนรอดพ้นจากปัญหาการเสพติดบุหรี่ รวมถึงให้พ่อแม่ร่วมกันตรวจสอบเฝ้าระวังสื่อที่จะทำให้บุตรหลานของท่านเป็นเด็กที่สูบบุหรี่ในอนาคต
เด็กที่ดูโทรทัศน์มากๆ จะเริ่มสูบบุหรี่ได้ง่ายขึ้น
งานวิจัยในสหรัฐอเมริกาเรื่อง television viewing and initiation of smoking among youth โดย pradeep p. gidwani วารสาร prediatrics ปี 2002 พบว่า การที่เด็กดูโทรทัศน์มากๆ มีผลต่อการเริ่มต้นสูบบุหรี่ของเด็ก โดยนักวิจัยได้ศึกษาเด็กเป็นเวลาต่อเนื่อง 2 ปี พบว่า เด็กที่ดูโทรทัศน์วันละมากกว่า 5 ชั่วโมง จะตัดสินใจเริ่มสูบบุหรี่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือจาก 4.8% เป็น 12.3 % (เพิ่มขึ้น 5.99 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ดูโทรทัศน์วันละน้อยกว่า 2 ชั่วโมง) จากงานวิจัยสรุปได้ว่าผู้ปกครองควรจะควบคุมการดูโทรทัศน์ของบุตรหลานไม่ให้มากจนเกินไป
หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเต็มไปด้วยบุหรี่
งานวิจัยเรื่อง smoking scenes in japanese comic : preliminary study โดย s nakahara ในวารสาร tobacco control ปี 2005 พบว่า หนังสือการ์ตูนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเด็กๆ ทั่วโลก เด็กๆ ต่างใช้เงินของพ่อแม่ซื้อหนังสือการ์ตูนหลายล้านเล่มต่อสัปดาห์ และหนังสือการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมักจะถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน นำไปทำเป็นของเล่นซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดของเด็กอย่างมาก
คณะวิจัยเก็บข้อมูลจากนิตยสารการ์ตูนที่ได้รับความนิยมสูงสุด 4 ฉบับ มีฉากที่ตัวละครสูบบุหรี่ มีอุปกรณ์หรือสัญลักษณ์เกี่ยวกับบุหรี่ การพูดถึงบุหรี่ และการพูดถึงอารมณ์ขณะสูบบุหรี่ ว่ามีความถี่มากน้อยเพียงใด และมีการ์ตูนเรื่องใดบ้าง ซึ่งมีผลสรุปดังนี้
1. หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิงพบว่า เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 10 เรื่องใน 70 เรื่อง มีช่องการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 42 ช่องใน 7,103 ช่อง (0.6%)
2. หนังสือการ์ตูนวัยรุ่นผู้หญิงมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 22 เรื่องใน 60 เรื่อง มีช่องการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 97 ช่องใน 8,170 ช่อง (1.2%)
3. หนังสือการ์ตูนเด็กผู้ชายมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 20 เรื่องใน 87 เรื่อง มีช่องการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 105 ช่องใน 7,835 ช่อง (1.3%)
4. หนังสือการ์ตูนวัยรุ่นชายมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 24 เรื่องใน 85 เรื่อง มีช่องการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ 173 ช่องใน 6,399 ช่อง (2.7%)
5. เด็กผู้ชาย 17% บอกว่าตัดสินใจสูบบุหรี่ตามการ์ตูน
6. วัยรุ่นชาย 6.1% บอกว่าตัดสินใจสูบบุหรี่ตามการ์ตูน
สรุปได้ว่าการ์ตูนนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับบุหรี่แฝงอยู่มากและมีผู้อ่านส่วนหนึ่งตัดสินใจสูบบุหรี่ตามการ์ตูน
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ไม่แปลกใจ ที่งานวิจัยพบว่า ภาพการสูบบุหรี่ในการ์ตูนมีผลทำให้เด็กจำนวนหนึ่งตัดสินใจสูบบุหรี่จากการ์ตูนญี่ปุ่นโดยใช้กลยุทธ์ ใช้ตัวเอกที่เป็นฮีโร่นักฟุตบอลเป็นสื่อให้เด็กญี่ปุ่นชอบกีฬาฟุตบอล วัยรุ่นญี่ปุ่นจึงชอบฟุตบอลและเล่นฟุตบอลกันจนเป็นแชมป์เอเชีย
มีหลักฐานว่า บริษัทบุหรี่จ้างดาราและผู้สร้างหนังเพื่อให้มีฉากสูบบุหรี่ในหนัง เพื่อทำให้วัยรุ่นสูบบุหรี่ตาม จึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจเหมือนกัน หากพบว่า บริษัทบุหรี่จ้างนักเขียนการ์ตูนเพื่อให้มีภาพสูบบุหรี่ในการ์ตูน
ที่มา: มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่