สาวเมืองลุงแซมแห่ทำสวยสู้เศรษฐกิจ
ศัลยแพทย์เผยยอดผู้หญิงตกงานแห่ทำศัลยกรรมสู้หางานใหม่เพิ่ม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าขณะนี้พบว่ายอดการทำศัลยกรรมความงามในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลง โดยเหตุผลสำคัญที่คนนิยมไปทำศัลยกรรมกันมากเพราะต้องการสร้างความมั่นใจและเตรียมตัวให้พร้อมกับการสัมภาษณ์งานในยุคเศรษฐกิจไม่ดี
ทั้งนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจากผลการวิจัยของสมาคมเพื่อการศัลยกรรมความงามอเมริกัน (american society for dermatologic surgery: asds) การวิจัยนี้ระบุว่าความต้องการในการทำศัลยกรรมความงามประเภทไม่ซับซ้อนมาก เป็นต้นว่า การฉีดโบท็อกซ์ กำลังเพิ่มขึ้นสูงสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เกรงกันว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
อย่างไรก็ดีการวิจัยนี้พบว่าความต้องการในการทำศัลยกรรมความงามที่มีราคาแพงนั้นเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจกล่าวคือมีจำนวนลดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยมีฐานะทางเศรษฐกิจดีเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่บางคนก็ยอมไม่ได้ที่จะต้องเห็นตัวเองดูแย่” นพ.ดาร์เรลล์ ริเกล ประธานสมาคมเพื่อการศัลยกรรมความงามอเมริกัน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส
สำหรับการศึกษาที่สมาคมเพื่อการศัลยกรรมความงามอเมริกันทำนั้นเป็นการสำรวจแพทย์ที่เป็นสมาชิกของสมาคมจำนวนทั้งสิ้น 562 คนผ่านทางอินเทอร์เน็ต ผลการสำรวจพบว่า 63 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกสมาคมระบุว่าพวกเขามีคนไข้จองคิวทำศัลยกรรมบำรุงรักษาความงามประเภทต่อเนื่องเต็มอยู่ตลอดเวลาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อีกเกือบ ๆ 32 เปอร์เซ็นต์ของสมาชิกสมาคมเพื่อการศัลยกรรมความงามอเมริกันกล่าวว่าจำนวนคนไข้ใหม่ที่เข้ามาเพื่อทำศัลยกรรมความงามนั้นเพิ่มขึ้นมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ นพ.ริเกลกล่าวว่าไม่เพียงแต่จำนวนผู้ทำศัลยกรรมจะเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้นแต่เป็นที่น่าสนใจว่าการทำศัลยกรรมความงามได้กลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนตกงาน
“เราเห็นคนจำนวนมากเดินเข้ามาเพื่อบอกว่า ฉันต้องกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกแล้ว ฉะนั้นฉันจำเป็นต้องดูดี” นพ.ริเกลกล่าวและว่า “ผู้ทำศัลยกรรมประเภทนี้เห็นว่าการทำศัลกรรมคือการลุงทุนเพื่อให้ได้งานใหม่”
อย่างไรก็ตามนพ.ริเกลกล่าวว่าการทำศัลกรรมความงามที่เป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีนี้ไม่ใช่การทำศัลยกรรมประเภทต้องมีการผ่าตัดหรือทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ๆ คือไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่นั่นเอง แต่ประเภทศัลยกรรมที่นิยมกันมากได้แก่ ฉีดโบท็อกซ์ รักษาริ้วรอยเหี่ยวย่น และการรักษาด้วยเลเซอร์
การวิจัยนี้ยังพบด้วยว่า 51 เปอร์เซ็นต์ของคนไข้ของแพทย์สมาชิกสมาคมเพื่อการศัลยกรรมความงามอเมริกันมีความกังวลใจเกี่ยวกับค่ารักษาความงามมากกว่าเมื่อช่วง 6 เดือนก่อน ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐได้ดีอีกทางหนึ่ง
ที่มา : สำนักข่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 23-06-51