สารพัดวิธีง่าย ๆ รักกันได้ ไม่ต้องป่อง

ที่มา : เว็บไซต์โอกาสทองคุยเรื่องเพศ


สารพัดวิธีง่าย ๆ รักกันได้ ไม่ต้องป่อง thaihealth


แฟ้มภาพ


“หนูมีอะไรกับแฟน แล้วเมนส์ยังไม่มาเลยค่ะ จะท้องไหมคะ เครียดมากเลย”


“มีอะไรกับแฟนแล้วแตกนอก จะท้องไหมครับ”


“ใส่ถุงยาง 2 ชั้น จะยิ่งช่วยป้องกันการท้องหรือเปล่า”


ถ้าใครตั้งคำถามแบบนี้ คงรู้ดีว่า ตอนมีอะไรกันออกจะมีความสุข แต่หลังจากนั้น จะเครียดแทบบ้า


ก็ในเมื่อการตั้งท้องไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฝ่ายหญิงต้องเจอภาวะเครียด เพราะจู่ ๆ จากเด็กวัยรุ่นธรรมดาเช้าไปโรงเรียน เย็นกลับบ้าน จะต้องเปลี่ยนไปโรงพยาบาลเตรียมตัวเป็นแม่แทน ! ยังไม่พูดถึงความยุ่งยากใจในการรับมือจากคนรอบข้างที่อาจไม่ยอมรับ


และที่แย่สุด ๆ อันนี้ต้องพิมพ์ตัวหนา ฟ้อนใหญ่สุด !!! จากการทำงานขององค์กรที่ให้การช่วยเหลือวัยรุ่น พบว่าเด็กผู้ชายร้อยละ 70-80 จะหายไปจากชีวิตฝ่ายหญิงหลังทราบข่าวการท้อง และเมื่อต้องท้องโดยไม่มีพ่อหรือไม่ได้แต่งงาน ฝ่ายหญิงจะรู้สึกหมดคุณค่าในตัวเอง เกิดภาวะซึมเศร้า และอาจเลยเถิดไปถึงการคิดฆ่าตัวตาย!!!


โห ไหนตอนนั้นบอกว่ารัก…


ดังนั้นถ้าไม่อยากเจอะเจอฝันร้ายที่กลายเป็นจริงแบบนี้  ทุกคนควรเตรียมวิธีป้องกันไว้ก่อน  ซึ่งปัจจุบันก็มีวิธีมากมายสารพัด แต่ละวิธีมีประสิทธิภาพ และข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน มารู้จักกันไว้ดีกว่า


ถุงยางอนามัย -ถุงยางสมัยนี้พัฒนาทั้งรูป รส กลิ่น สี แถมมีผิวสัมผัสที่หลากหลาย อยากฟีลกู๊ดแค่ไหน ลองจูงมือกันไปเลือกซื้อหาได้ไม่ต้องเขิน ข้อดีเพียบตรงที่สามารถป้องกันทั้งโรค ป้องกันทั้งท้อง แถมป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ฝ่ายหญิงได้อีกด้วย  แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี คือต้องใส่ขณะอวัยวะเพศชายแข็งตัว ห้ามใส่ซ้อน 2 ชั้น ห้ามใช้ถุงยางที่มีรอยขีดข่วน ขณะแกะฉีกซองให้ระวังเล็บหรือของมีคม ที่สำคัญอย่าลืมดูวันหมดอายุ และเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐานรับรองมองหาเครื่องหมาย อย.


ยาคุม – ถ้าอยากมั่นใจเพิ่ม ฝ่ายชายใช้ถุงยาง ฝ่ายหญิงก็ร่วมด้วยช่วยกันโดยการกินยาคุมกำเนิด ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่แสนมีประสิทธิภาพ โดยยาคุมจะมีแบบ 21 เม็ด (เมื่อกินหมดแผงต้องหยุดกิน 7 วันจึงเริ่มแผงใหม่ ประจำเดือนมาในช่วง 7 วันที่หยุดยา) และแบบ 28 เม็ด (กินวันละ 1 เม็ดจนหมดแผง ประจำเดือนมาในช่วงกินเม็ดแป้ง 7 เม็ด เมื่อกินหมดแผงให้เริ่มกินแผงใหม่ทันที โดยไม่ต้องสนว่า ประจำเดือนจะหมดหรือไม่) กรณีลืมกิน 1 วัน ให้กินทันทีที่นึกได้ จากนั้นกินเม็ดถัดไปตามเวลาปกติ แต่ถ้าได้เวลาที่จะกินยาเม็ดต่อไปพอดี ก็ให้กินพร้อมกัน 2 เม็ด หรือถ้าลืมกิน 2 วัน ให้กิน 2 เม็ดทันทีที่นึกได้ และกินอีก 2 เม็ดในวันถัดไป ถ้าลืมกินมากกว่า 2 วัน ให้เลิกกินยาแผงนั้น ให้ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อน และเริ่มกินยาแผงใหม่ในรอบประจำเดือนถัดไป


ยาคุมกำเนิดแบบฝัง  วิธีฝังจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีมาก แถมยังสามารถไปรับบริการจากสถานบริการสาธารณสุข หรือที่โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ หากมีบัตรทองและอายุน้อยกว่า 20 ปี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยคุณหมอจะใช้เวลาฝังที่ใต้ท้องแขน แค่ 3-4 นาที แต่อายุใช้งานนาน 3 หรือ 5 ปี วิธีนี้ดี เพราะไม่ต้องกลัวลืมกินยา ทำให้ปวดประจำเดือนน้อยลง ป้องกันการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ลดภาวะโลหิตจาง ฯลฯ


แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นแผ่นยาที่เมื่อแปะไว้ที่ร่างกาย เช่น หัวไหล่ด้านหน้า ด้านหลังส่วนสะบัก ท้องน้อย แก้มก้นส่วนบน ก็จะปล่อยฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อป้องกันการตกไข่ ซึ่งต้องเปลี่ยนทุกสัปดาห์เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เว้นสัปดาห์ที่ 4 เพื่อให้มีประจำเดือน (อาจจะหาซื้อแผ่นแปะได้ยากสักหน่อย ในท้องตลาด)


ยาฉีดคุมกำเนิด คุณหมอจะฉีดฮอร์โมนเพศหญิงที่เป็นยาคุมกำเนิด บริเวณแขนหรือบั้นท้ายเพื่อป้องกันการตกไข่ โดยการฉีดแต่ละครั้งให้ผลประมาณ 3 เดือน  แต่อาจมีข้อเสียตรงที่ต้องฉีดประจำ ซึ่งถ้าใช้ติดต่อกันนานไปอาจทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนชั่วคราวได้ และทำให้รอบเดือนอาจคลาดเคลื่อน


วงแหวนคุมกำเนิด การใส่วงแหวนคุมกำเนิดบริเวณช่องคลอด จะป้องกันการตกไข่ ผู้ใส่วงแหวนคุมกำเนิดสามารถใส่ได้เอง แต่ต้องใส่ในวันแรกของการมีประจำเดือนทันที และใส่ติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ และจะเอาออกในสัปดาห์ที่ 4 เพื่อให้มีประจำเดือน


แต่ถ้าพลาดพลั้งไปไม่ได้ป้องกัน ยังมีตัวช่วยสุดท้ายที่ต้องใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น คือการกิน “ยาคุมฉุกเฉิน” ซึ่งเป็นยาคุมที่ใช้เมื่อมีเพศสัมพันธ์แบบฉุกเฉินตามชื่อ เช่น ถุงยางอนามัยรั่ว ฉีกขาด หรือกรณีผู้หญิงถูกข่มขืน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เตรียมตัว โดยวิธีการกินมี 2 แบบ คือวิธีที่ 1 กินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน 2 เม็ดทันทีที่สะดวกหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ภายใน 72 ชั่วโมง) แต่ต้องไม่เกิน 5 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ วิธีที่ 2 กินยาครั้งแรก 1 เม็ดทันทีที่สะดวกหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ 12 ชั่วโมงต่อมา กินยาที่เหลืออีก 1 เม็ด (ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการกินยา)


เห็นไหมมีวิธีสารพัด แต่ที่หาง่ายราคาประหยัดและใช้ได้สะดวกที่สุดก็คือถุงยาง เดี๋ยวนี้ก็มีแจก มีขายไปทั่ว พกติดตัวไว้ สบายใจทั้งชายหญิง จะได้ลดกังวล ไม่ท้อง ลดโอกาสติดโรค และจะได้ไม่ต้องมาตั้งคำถามปวดใจกันอีกเนอะ


อยากรูข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม แวะไปที่เว็บ http://talkaboutsex.thaihealth.or.th/ ทุกปัญหาจะเจอทางออกแน่นอน

Shares:
QR Code :
QR Code