“สายตรวจขยะ” แผนจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน

ในปัจจุบันปัญหาขยะในชุมชน ได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นลำดับเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร และพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม แม้ว่าในหลายพื้นที่ได้มีการดำเนินการจัดการขยะที่เพิ่มขึ้นแล้วก็ตามแต่ปริมาณขยะที่ต้องกำจัดไม่ได้ลดลงแต่อย่างใดและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แนวทางในการลดและคัดแยกขยะกลับมาใช้ประโยชน์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการลดปัญหาดังกล่าว โดยมีปัจจัยแห่งความสำเร็จคือความร่วมมือของคนในชุมชน ซึ่งเป็นผู้สร้างขยะจะเป็นผู้ช่วยกันแก้ปัญหาขยะ ดังตัวอย่างที่ อบต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตลอดแนวระยะทางในความรับผิดชอบของ อบต.อุดมทรัพย์ ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งในเครือข่ายตำบลสุขภาวะ สนับสนุนโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. บนถนนสาย 304 เส้นนครราชสีมา – กบินทร์บุรี ไม่ว่าใครขับรถผ่าน หรือนั่งรถผ่านถนนสายนี้ จะเห็นว่าตลอดแนว 2 ข้างทางนั้นสะอาดสะอ้านปลอดขยะ เป็นเพราะหน่วยสายตรวจขยะของ อบต.อุดมทรัพย์ เป็นผู้รับผิดชอบความสะอาดของถนนเส้นนี้

“สายตรวจขยะ” เกิดจากแนวคิดของ คุณสำรวม กุดสระน้อย นายก อบต.อุดมทรัพย์ ซึ่งได้เล่าถึงการจัดตั้งสายตรวจขยะ ว่าเมื่อก่อนที่นี่ 2 ข้างถนนเส้น 304 นครราชสีมา – กบินทร์บุรี มีขยะจำนวนมาก ก่อให้เกิดมลภาวะ และความสกปรก ทำให้ทัศนียภาพโดยรวมของถนนเส้นนี้เกิดความไม่สวยงาม ตนจึงได้นำแนวคิดจากการที่ได้ไปศึกษาดูงานมาจากตลาดสามชุก มารวมกับแนวคิดต่อยอดนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน บวกกับมีโครงการโคราชเมืองสะอาด จึงได้นำทุกเรื่องราวที่ไปเห็นมาปรับใช้กับ อบต.อุดมทรัพย์

“เริ่มจากการหาคนมาดูแลเรื่องการจัดเก็บขยะก่อน ซึ่งจะมองหาคนในตำบล ที่ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และมีจิตอาสา โดยคุณสำรวม เสนอให้ทำงานจัดเก็บขยะเป็นอาชีพหลัก และเสนอรายได้ให้เป็นเงินเดือน โดยอาศัยเงินงบประมาณจาก อบต.อุดมทรัพย์”

สิ่งที่ต้องรับผิดชอบของสายตรวจขยะ คือ มีหน้าที่เก็บขยะ และดูแลต้นไม้ ที่ทาง สนง.อบต.อุดมทรัพย์ ได้ปลูกเอาไว้ตลอดแนวถนน 304 ที่รับผิดชอบนอกจากการเก็บขยะทั้ง 2 ข้างทางถนนแล้ว ยังต้องทำการคัดแยกขยะที่ต้องทำลายอีกด้วย ขยะบางส่วนที่เก็บไปขายได้ ก็ถือให้เป็นรายได้เสริมให้กับสายตรวจขยะได้รับไป แต่ทั้งนี้เนื่องจาก สายตรวจขยะมีเพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งหน้าที่จัดเก็บขยะ คัดแยกขยะและต้องดูแลต้นไม้ทั้ง 2 ข้างทางด้วย ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ และทำงานไม่ทัน นายก อบต.อุดมทรัพย์จึงจัดจ้างสายตรวจขยะเพิ่มอีก 1 คน ทำให้ทั้งสองคนทำงานคนละฝั่งถนนกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บขยะและดูแลต้นไม้ได้มากขึ้น

จากแนวคิด ที่จะกำจัดขยะ และทำให้ถนนในเขต อบต.อุดมทรัพย์ปลอดขยะแล้วนั้น ด้านนายก อบต.อุดมทรัพย์ ยังบอกอีกว่าตนได้เล็งเห็นว่า ควรปลูกไม้ดอกเพิ่มเติมขึ้นทั้ง 2 ฝั่งถนน จะระดมคนในตำบลอุดมทรัพย์ ช่วยกันปลูกต้นเฟื่องฟ้า เพื่อให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น และจากแนวคิดการทำสายตรวจขยะในครั้งนี้ เกิดผลดีในวงกว้าง ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านโนนงิ้ว จึงปรึกษาหารือกัน และจัดทีมเป็นสายตรวจขยะของตนขึ้นบ้าง ส่วนที่หมู่ 1 บ้านบะใหญ่ ซึ่งเล็งเห็นประโยชน์ด้านรายได้และการสร้างงานให้คนในชุมชนก็ได้ต่อยอดขยาย เพิ่มเป็นสายตรวจขยะเยาวชน และธนาคารขยะขึ้นอีกด้วย

นายปิน อันวิมล  สายตรวจขยะ เล่าให้ฟังว่าที่นี่จะมีสายตรวจขยะ 2 คน ซึ่งในแต่ละวันจะแบ่งหน้าที่กันไปตามถนนในเขตรับผิดชอบของตำบลอุดมทรัพย์ซึ่งใช้รถซาเล้งในการเก็บขยะโดยจะนำถุงปุ๋ยมาแขวนไว้ที่ข้างรถเพื่อใส่ขยะ ส่วนใหญ่จะมีทั้ง กระดาษ ถุงพลาสติก แก้วน้ำ ขวดแก้ว และ แก้วกาแฟ ทั้งนี้ขยะส่วนไหนที่สามารถแยกขายได้ก็จะแยกไว้ เช่นขวดน้ำ ขวดแก้ว สิ่งเหล่านี้เป็นรายได้เสริมของแต่ละคน รายได้จากการขายขวดจะอยู่ที่ประมาณ 150-200 บาทต่อเดือนต่อคน ส่วนขยะที่เผาได้ก็จะนำมาใส่เตาเผาที่ทาง อบต. เตรียมไว้ให้ นายปินบอกว่าเขาภูมิใจที่มีส่วนร่วมทำให้ชุมชนของตนเองสะอาดน่ามอง

ด้วยแนวคิดสายตรวจขยะของ นายก อบต.อุดมทรัพย์นี้ นอกจากจะดูแลการเก็บขยะ 2 ข้างถนนเส้น 304 (ในความรับผิดชอบของ อบต.อุดมทรัพย์) แล้วยังดูแลต้นไม้ ทั้ง 2 ข้างทางอีกด้วย และนอกจากนี้นายก อบต.อุดมทรัพย์ ยังมีแนวคิดอีกคือ จะเร่งปลูกต้นไม้เพิ่มเติม นอกจากต้นเฟื่องฟ้าจะปลูกต้นไม้ชนิดที่นกอาศัยเก็บกินผลของต้นไม้นั้นได้ เรียกว่าจะช่วยสร้างความร่มรื่นให้กับ ถนนสาย 304 ขึ้นอีกอย่างมากและไม่แน่ในอนาคต หากมีนกมาอาศัยอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะกลายเป็นจุดพักรถ และหยุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามแห่งหนึ่งก็เป็นได้

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ