‘สานพลัง’ พัฒนาเด็กปฐมวัย

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ภาพโดย สสส.


'สานพลัง' พัฒนาเด็กปฐมวัย thaihealth


'สานพลัง' พัฒนาเด็กปฐมวัย


"สถานการณ์ครอบครัวของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ จาก 2,148 ตำบล พบว่า มีเด็กที่อยู่กับพ่อแม่ 20% เด็กอยู่กับผู้ปกครอง เช่น ปู่ย่าตายาย 40% และ 20% อยู่กับพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว การที่ทำให้เด็กเติบโตมีคุณภาพเหมาะสมโดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทจะต้องให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพราะมีส่วนสำคัญในการดูแลเด็กเล็ก รวมถึงชุมชน หรือหน่วยงานอปท. จะต้องมีส่วนในการช่วยเหลือดูแลเด็กมากขึ้น จากการทำงานในพื้นที่พบว่า มีกรณีเด็กถูกเลี้ยงด้วยโทรศัพท์ ทำให้พูดช้า ก้าวร้าว" น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในงาน เวทีสานพลัง สร้างปัญญา พัฒนาเด็กปฐมวัยและประถมศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน ร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่ายภาค (ศวภ.) ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดขึ้นเพื่อจัดการความรู้ระบบการดูแลเด็กปฐมวัยและประถมศึกษาโดยชุมชนท้องถิ่น และสร้างการเรียนรู้เสริมสร้างสติปัญญาด้วยสนามเด็กเล่น


'สานพลัง' พัฒนาเด็กปฐมวัย thaihealth


น.ส.ดวงพร กล่าวต่อว่า สสส. สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ยกระดับการดูแลเด็กปฐมวัยในพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจ สร้างการมีส่วนร่วมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยด้วยสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา เพื่อส่งเสริมการเล่นของเด็ก สร้างพื้นที่ต้นแบบ 12 แห่ง ซึ่งได้ทดลองดำเนินการมาแล้ว 2 ปี พบว่า การเรียนรู้จากการเล่นก่อให้เกิดการคิดวิเคราะห์ สร้างการมีวินัยทางสังคม มีทักษะในการช่วยเหลือตนเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งหากการเรียนรู้ถูกกระตุ้นด้วยการเล่นในสนามเด็กเล่นที่ออกแบบให้กระตุ้นพัฒนาการของสมองและร่างกาย พัฒนาการทางสังคมที่มาพร้อมปัญญาและอารมณ์ รวมทั้งส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้ด้วย


'สานพลัง' พัฒนาเด็กปฐมวัย thaihealth


ด้าน นายดิสสกร กุนธร ประธานมูลนิธิสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา ผู้ออกแบบสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา กล่าวว่า สนามเด็กเล่นสร้างปัญญามีแนวคิดให้จัดรูปแบบสถานที่เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เด็กปฐมวัยผ่านการเล่น มีเป้าหมายเพื่อให้เด็กได้เรียนในห้องเรียนธรรมชาติ ตามวัสดุที่มีในธรรมชาติ ได้แก่ ทราย น้ำ ต้นไม้ รวมทั้งวัสดุที่เหลือใช้ในพื้นที่ โดยแบ่งการเล่นออกเป็นรูปแบบฐานต่าง ๆ เช่น ฐานสระน้ำ ฐานห้อยโหนปีนป่าย ฐานไต่เชือก เป็นต้น สำหรับแนวทางการสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา จะใช้แนวคิดตามหลัก "บวร" (บ้าน วัด โรงเรียน/ท้องถิ่น) คือ การร่วมมือขององค์กร และสถาบันหลักในชุมชนท้องถิ่นมาร่วมกันคิด สร้าง และบริหารจัดการสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา


'สานพลัง' พัฒนาเด็กปฐมวัย thaihealth


ขณะที่ ศ.ดร. ขนิษฐา นันทบุตร ผู้อำนวยการศูนย์ วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เด็กปฐมวัยในชุมชนจะเกิดประสิทธิผลและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ในช่วงวัยที่เป็นโอกาสทอง คือ 0-5 ปี โดยเฉพาะศพด. ในสังกัดของ อปท. ต้องเปลี่ยน 4 เปลี่ยน คือ 1. เปลี่ยนจากการสอนเป็นโค้ชให้เด็กเล่นและเรียนรู้อย่างอิสระ ที่อยู่ในกติกาและมีวินัย 2. เป็นบุคคลต้นแบบให้เด็กได้เลียนแบบและเรียนรู้ผ่านลีลาชีวิตของครู 3. เปลี่ยนจากการวัดพัฒนาการมาเป็น "การประเมินพัฒนาการของเด็กและครูทำหน้าที่เป็นโค้ช ส่วนตัวของเด็กและครอบครัว และ 4. จัดอาหารสำหรับเด็กทุกคนตามความเหมาะสมและตามภาวะโภชนาการของเด็กแต่ละคน เช่น เด็กอ้วน เด็กเป็นโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ขณะที่ ศพค. ทำหน้าที่ดึงจิตอาสาและทุนทางสังคมมารวมตัวกัน ชุมชนมีบทบาทและเป็นพลังสำคัญในการสร้างปัญญาให้เด็กปฐมวัย

Shares:
QR Code :
QR Code