สะกิดทีวี ลดธุรกิจ-เพิ่มสาระ

หลังพบ โฆษณาแฝง-เกินเวลา เพียบ!!

 

สะกิดทีวี ลดธุรกิจ-เพิ่มสาระ

          นึกว่าจะไม่มีใครสังเกตสังกาพฤติกรรมของทีวี. แต่ละช่องและทุกช่องเสียแล้ว ว่าไม่ได้คิดแม้แต่นิดเดียวว่าเป็นสื่อมวลชนคิดอย่างเดียวว่าเป็นนักธุรกิจ ผลิตรายการที่มอมเมาแทบจะหาความประเทืองปัญญาไม่ได้ อย่างละครที่ผลิตกันแทบทุกช่องในช่วงเวลาที่คนดูกันทั้งประเทศเป็นต้น ให้คนดูพลอยถดถอยทางสติปัญญาไปด้วย คนดูติดเยอะ โฆษณาก็เยอะ ไม่มีใครไปคุ้ยแคะด้วยว่าโฆษณาเกิน โฆษณาแฝงแค่ไหนเพียงใด

 

          ท่ามกลางการปล่อยให้มีอิสระในการควบคุมดูแลกันเอง ได้มีการฉกฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์ตั้งแต่ละครรายการดังติดลมบนมีโฆษณาเกิน โฆษณาแฝงมากมาย อย่างเช่นรายการประเภทเล่าข่าวรายการวาไรตี้ เป็นต้น

 

          ที่สุดก็มี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม (มีเดียอินเตอร์) คอยสังเกตสังกาอยู่เมื่อสัมผัสได้ถึงทีวี. ทุกช่องมุ่งธุรกิจมากกว่าสาระจึงจัดแถลง “สำรวจผังรายการฟรีทีวี”

 

          โดยนายธาม เชื้อสถาปนศิริ ผจก. กลุ่มงานวิชาการโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อๆ กล่าวว่า การสำรวจผังฟรีทีวี ช่อง 3,5,7,9, NBT และทีวีไทยเดือน ก.พ. – เม.ย.2552 พบว่าช่องที่มีรายการข่าวมากที่สุดคือ ช่อง 11 เฉลี่ย 9.2 ชม. ต่อวัน และลดรายการบันเทิงลงกว่าครึ่ง ช่อง 5 มีข่าวน้อยที่สุดคือ 5 ชม.ต่อวัน โดยช่อง 9 เป็นช่องเดียวที่มีรายการวิเคราะห์ข่าว ส่วนช่อง 7 เพิ่มเวลาข่าวถึง 500 นาทีต่อสัปดาห์ มีรายการโฆษณาสินค้าบริการธุรกิจเกือบ 3 ชม.ต่อวัน

 

          ด้านช่อง 9 มีกลุ่มรายการสาระบันเทิงมากที่สุด 22.2% มีรายการโชว์/ประกวดมากที่สุดถึง 187 นาทีต่อสัปดาห์ แต่รายการสาระลดลงมาจาก 3,579 นาที เหลือ 2,059 นาที ทั้งยังมีรายการบริหารธุรกิจที่เมื่อก่อนไม่มี 1.2 ชม.ต่อวัน

 

          นายธาม กล่าวอีกว่า ช่อง 7 มีกลุ่มรายการบันเทิงมากที่สุด 55.3% ตามด้วยช่อง 3 มี 46.7% แต่มีละครมากที่สุดคือ 7.5 ชม.ต่อวัน ส่วนช่อง 5 มีรายการแบบแม็กกาซีนมากที่สุด 5,187 นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าเป็นรายการเรียลลิตี้ ทีวีไทยมีมากที่สุดเฉลี่ยวันละ 35 นาที ที่น่าเสียดายคือรายการเกษตรมีสัดส่วนน้อยมากรวมทุกช่องมีเพียง 19 รายการ หรือไม่ถึง 1% ทั้งยังมีโฆษณาแฝงด้วย

 

          “หน่วยงานรัฐและสถานีควรดูแลให้มีคุณภาพมากกว่านี้ สำหรับรายการสาระความรู้ ขณะนี้ทีวีไทยมีความหลากหลายเหมาะกับกลุ่มผู้ชมที่กว้างมากกว่าช่องอื่นๆ ด้านรายการส่งเสริมวัฒนธรรมนั้น ช่อง 3, 5, 7 แทบไม่มีรายการที่โดดเด่นเพียงพอ ซึ่งภาพรวมจะเน้นศิลปะวัฒนธรรมส่วนกลางขาดความหลากหลาย” นายธามกล่าว

 

          “น่าเสียดายว่ารายการศาสนา ที่อาจถูกบังคับให้ทุกสถานีมีไว้ในผังนั้น จะอยู่ในช่วงเช้ามืด คือ ตี 4 – ตี 5 และส่วนใหญ่เน้นเนื้อหาสำหรับผู้สูงอายุ ขาดส่วนของเด็กและวัยรุ่นขณะที่รายการข่าวบันเทิงเป็นกลุ่มใหม่ที่ยึดพื้นที่ได้มาก ซึ่งเน้นแต่ชีวิตส่วนตัวของดารา ความรัก เรื่องทะเลาะไม่เน้นคุณค่าของผลงานจึงค่อนข้างขาดคุณภาพ ข่าวบันเทิงศิลปะมีเพียงทีวีไทยและ NBT เท่านั้น ส่วนรายการเพื่อการพัฒนาสังคมเป็นเรื่องที่ประเทศอื่นๆ ทำกันมากแต่ในไทยกลับมีน้อยมาก ทั้งยังเน้นการพัฒนาตัวบุคคลเป็นหลัก ไม่เน้นการพัฒนาแบบวิทยาศาสตร์”

 

          ผศ.ดร.กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ ผู้อำนวยการหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การสำรวจสะท้อนว่ารายการโทรทัศน์มีความหลากหลายน้อยมาก และโครงสร้างสถานีโทรทัศน์เป็นธุรกิจการค้าอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เนื้อหาของรายการต่างๆ เน้นแต่หากำไรและขายสินค้าบริการ

 

          ส่วนบริการที่มีเนื้อหาดีๆ หรือเฉพาะกลุ่มเกิดขึ้นได้ยาก เช่น รายการเกษตรแบบเจาะลึก รายการเพื่อสาธารณชน รายการเพื่อผู้สูงอายุ แม้แต่รายการข่าวก็เป็นเพียงการข่าว ที่อิงกับกลุ่มทุนที่สนับสนุนเป็นหลัก ละเลยการวิเคราะห์และให้ความรู้ที่แท้จริงน่าสังเกตว่ามีสัดส่วนของรายการบริการธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกช่อง แม้ว่ารายการสาระบันเทิงจะเพิ่มขึ้นแต่เน้นไปที่กลุ่มที่มีกำลังซื้อ ไม่ได้ทำเพื่อคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

 

          นางอรัญญาอร พานิชพึ่งรัก แกนนำเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า ไม่แปลกใจกับผลสรุปที่ออกมา เพราะการสนับสนุนจากภาครัฐยังไม่มากเท่าที่ควร ทั้งที่จะต้องดูแลอย่างจริงจังและทำอะไรมากกว่านี้ เช่น ผลักดันให้เกิดกองทุนสื่อสร้างสรรค์ให้ผู้ผลิตสื่อสามารถทำรายการที่มีคุณภาพได้ เนื่องจากคนทำสื่อประเภทดังกล่าวขาดทุนสนับสนุน จึงทำให้รายการที่มีประโยชน์อยู่ในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น รายการกีฬา – อยู่ในช่วงเช้าจนเกินไป ทำให้เด็กไม่สามารถติดตามชมได้

 

          หรือพบว่ามีเนื้อหาที่รุนแรงแทรกอยู่ในรายการสำหรับเด็ก ส่วนรายการเฉพาะกลุ่มก็แฝงการหาผลประโยชน์ เช่น รายการเกษตร มีแต่เดินชมสวนแล้วก็ขายปุ๋ย ทั้งที่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยังมีความต้องการอาชีพทางเลือกเพื่อเป็นแนวทางอีกมาก

 

          ผลประโยชน์ทางธุรกิจนั้นรู้ว่าจำเป็นสำหรับการลงทุน แต่ก็อย่านึกถึงแต่ตัวเองนึกถึงคนดูนึกถึงสังคมในเชิงสร้างสรรค์บ้าง เพิ่มสาระอีกสักหน่อยได้มั้ยเอ่ย

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

Update 18-06-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code