สสส.-เครือข่ายงดเหล้าชวน 2600 องค์กร งดเหล้าเข้าพรรษามหากุศล
สสส.-เครือข่ายงดเหล้า รณรงค์ปีที่ 10 ชวน 2600 องค์กร ครอบครัว คนต้นแบบงดเหล้าเข้าพรรษามหากุศล คนไทยกว่า 80% เชียร์งดเหล้าเข้าพรรษา ประหยัดเงินมหาศาลกว่า 3 หมื่นล้านบาท หวังสังคมไทยลดความเสื่อมจากเหล้า!! ระดมพลัง 7 หน่วยหลัก ออกมาตรการเข้มข้น!! รณรงค์ให้ถูกจุด หนุนให้กำลังใจรัฐบาล เพิ่มมาตรการคุมเหล้า
วันนี้ (26 ก.ค.55) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์) กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดพิธีอนุโมทนาบุญงดเหล้าเข้าพรรษา ในโอกาสฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้แก่องค์กร ครอบครัวและคนต้นแบบ ที่ประกาศตนเพื่อสร้างสังคมให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. ริเริ่มจัดโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามาตั้งแต่ปี 2546 โดยในปี 2555 นี้เป็นการรณรงค์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 จึงได้จัด “โครงการ 2,600 องค์กร 2,600 ครอบครัว และ 2,600 คนต้นแบบ งดเหล้าเข้าพรรษามหากุศล” ขึ้น โดยความร่วมมือจาก 7 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเครือข่ายพระสงฆ์พุทธชยันตีสังฆะเพื่อสังคม ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญและเข้าร่วมรณรงค์มากขึ้น มีการประกาศนโยบายสนับสนุนต่อเนื่องไม่เพียงแค่ช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น
“จากการสำรวจผลการดำเนินงานโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาช่วง 9 ปีที่ผ่านมา โดยเอแบคโพล พบว่า มีประชาชน ร้อยละ 81.1 เห็นด้วยกับโครงการนี้ และร้อยละ 50.6 เกิดความตระหนักในพิษภัย และพยายามลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยในปี 2546 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มรณรงค์ มีผู้ร่วมงดเหล้าเข้าพรรษา ร้อยละ 40.6 ต่อมาในปี 2554 ได้เพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 53.3 จากจำนวนผู้ดื่มทั้งหมด 17 ล้านคน โดยเป็นผู้ร่วมงดเหล้าเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน ประมาณ ร้อยละ 30 ของผู้ที่ดื่มทั้งหมด ประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,857.3 บาทต่อคน รวมทุกคนที่งดดื่ม สามารถประหยัดเงินได้ 31,574 ล้านบาท การงดเหล้าทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น พ่อ-แม่เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน ช่วยลดปัญหาทางสังคม” ทพ.กฤษดา กล่าว
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้ากล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมกว่า 156,105 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 1.97 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ สูงกว่ารายได้จากภาษีน้ำเมาที่รัฐได้รับเพียงปีละ 80,000 บาท คนไทยเสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปีละกว่า 26,000 คน หรือชั่วโมงละ 3 คน และอีก 260,000 คนกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ การแก้ไขปัญหานี้ต้องใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพ โดยขอให้กำลังใจรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยผลักดันให้เกิดมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้การลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“ต้องขอความกรุณาจากรัฐบาลพิจารณาเสริมประสิทธิภาพข้อบังคับต่างๆ เช่น มาตรการเพิ่มภาษีเพื่อให้ราคาสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ มาตรการด้านจำกัดอายุผู้ซื้อ มาตรการจำกัดใบอนุญาตจำหน่าย และมาตรการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น นอกจากนี้ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทย ที่สนับสนุนให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดประกาศนโยบายปลอดเหล้า ซึ่งขณะนี้มี 37 จังหวัดได้ประกาศนโยบายนี้แล้ว มีผลให้การจัดงานบุญประเพณี งานแข่งกีฬา งานกาชาด ฯลฯ ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น และในอนาคตจะมีจังหวัดประกาศนโยบายงดเหล้าเพิ่มขึ้นจนครบทั้ง 77 จังหวัด” ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าว
ทั้งนี้ภายในงานได้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่องค์กรที่เข้าร่วม พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ รณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2555 นำโดยซัน พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ และป่านทอง บุญทอง นักแสดงจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และกิจกรรมการปล่อยขบวนรถจักรยานและรถสามล้อเพื่อรณรงค์การประชาสัมพันธ์โครงการและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน
ที่มา : สำนักข่าว สสส.