สสส.หนุนชุมชนหนองแวงศรีวิไลประยุกต์ใช้พลังงานลดรายจ่าย

หนุนชุมชนหนองแวงศรีวิไล จ.อุดรธานี ประยุกต์ใช้พลังงานจากวัสดุที่มีในท้องถิ่น หวังลดรายจ่าย และช่วยชุมชนพึ่งพาตนเอง สร้างรายได้ด้วย “ถ่าน” จาก “ชีวมวล”

นายประเสริฐ ขวาโยธา นายประเสริฐ ขวาโยธา หัวหน้าโครงการวิจัยการจัดการพลังงานชีวมวลเพื่อการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานท้องถิ่น จ.อุดรธานี กล่าวว่า จากผลการสำรวจมูลค่าการใช้พลังงานของเกษตรกรจำนวน 98 ครอบครัวจากทั้งหมด 406 ครัวเรือนของ บ้านหนองแวงจุมพล บ้านหนองแวงศรีวิไล และบ้านหนองแวงศรีชมพู อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานีพบว่า มีค่าก๊าซหุงต้ม 29,610 บาท ค่าถ่านและฟืน 13,920 บาท รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานถึง 5 แสนบาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยครอบครัวละ 5,100 บาทต่อเดือน

ดังนั้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรไร่นาสวนผสมบ้านหนองแวงศรีวิไล จ.อุดรธานี จัดทำโครงการวิจัยพลังงานชีวมวลในท้องถิ่น เพื่อลดรายจ่ายด้านพลังงาน เพิ่มการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานทดแทน ก่อนขยายผลไปสู่การทำการเกษตรพอเพียงปลอดสารพิษ โดยการศึกษาวิจัยค้นหาพลังงานในรูปแบบอื่นๆ มาใช้ควบคู่กับการใช้ก๊าซหุงต้มที่เหมาะสมกับชุมชน ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานจากวัสดุที่มีในท้องถิ่น

สสส.หนุนชุมชนหนองแวงศรีวิไลประยุกต์ใช้พลังงานลดรายจ่าย

ทางโครงการฯ จึงได้นำแกนนำชาวบ้านบ้านหนองแวงศรีวิไล ไปศึกษาศึกษาดูงานการทำเตาชีวมวลในรูปแบบต่างๆ เพื่อมาปรับใช้ให้เหมาะสมในท้องถิ่น พร้อมกับจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้เรื่องพลังงานทางเลือกสำหรับชุมชน” ขึ้น โดยนำร่องจัดสร้าง “เตาเผาถ่านขนาด 200 ลิตร” จำนวน 6 เตา เพื่อให้ชุมชนต่างๆ ได้มาเรียนรู้ โดยตั้งเป้าจะสร้างเตาเผาถ่านเพิ่มอีก 20 เตาในพื้นที่ทั้ง 3 หมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ โดยเตาเผาถ่านชนิดนี้จะใช้ไม้ฟืนจำนวน 80 กิโลกรัม และเมื่อเผาเสร็จจะได้ถ่านไม้คุณภาพสูงประมาณ 20 กิโลกรัม และยังได้น้ำส้มควันไม้ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรอีกไม่น้อยกว่า 2 ลิตร โดยชาวบ้านสามารถขายถ่านได้ในราคาที่สูงกว่าปกติคือกระสอบละ 15 กิโลกรัม 130 บาท เพราะเป็นถ่านที่ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง ให้ความร้อนสูง ติดไฟได้นาน ไม่มีควัน จึงได้รับความนิยมจากผู้ใช้เป็นจำนวนมาก

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code