สสส.ส่ง ‘โขน’ กิจกรรมทางกาย เปิดงานประชุม ISPAH
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
"โขน" นับเป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่มีประวัติเก่าแก่ยาวนานมานับร้อยปี แสดงถึงมรดกด้านวัฒนธรรมอันเป็นความภาคภูมิใจของประเทศ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าศิลปะชั้นสูงที่มีท่วงท่าลีลาอ่อนช้อยอย่างโขน ได้กลายเป็นกิจกรรมทางกายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่ต่างจากการออกกำลังกาย
ทั้งนี้ ในโอกาสที่ประเทศไทย โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาพันธ์นานาชาติด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ องค์การอนามัยโลก กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม "ประชุมนานาชาติว่าด้วยการส่งเสริมกิจกรรมทางกายและสุขภาพ ครั้งที่ 6" (The 6th ISPAH Congress; International Congress on Physical Activity and Public Health 2016 : ISPAH 2016) ระหว่างวันที่ 16-19 เดือนพฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกิจกรรมทางกายจาก 80 ประเทศเข้าร่วม
ในพิธีเปิดการประชุม ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้นำการแสดงโขนจากสถาบันคึกฤทธิ์ ตอน "ระบำวีรชัยลิง" และตอน "ยกรบ" มาร่วมแสดง เพื่อให้เห็นถึงการผสมผสานกิจกรรมทางกายเข้ากับการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจนเกิดเป็นสุนทรียภาพ อันส่งผลดีต่อสุขภาพได้อย่างเหลือเชื่อ ตลอดจนเป็นการส่งสารออกไปให้ทั่วโลกเกิดการตื่นตัวและเข้าใจมิติใหม่ของกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันทั่วโลกต่างให้ความสำคัญและผลักดันให้ประชากรของตนมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมเพียงพอ เนื่องจากองค์การอนามัยโลกได้ประมาณการว่า การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือที่เรียกว่าโรคกลุ่ม NCDs (Noncommunicable diseases : NCDs) และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลกร้อยละ 5.5 หรือประมาณร้อยละ 3.2 ล้านรายต่อปี
นอกจากนี้ วารสารวิชาการ The Lancet ฉบับปี 2555 ได้แสดงข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การขาดการมีกิจกรรมทางกายเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่มีอัตราความชุกสูงกว่า และนำไปสู่การเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประชากรโลกมากกว่าการสูบบุหรี่
ในส่วนของการนำโขนมาแสดงในพิธีเปิด นางตรีรัตน์ เรียมรักษ์ หัวหน้าสำนักงานสถาบันคึกฤทธิ์ กล่าวว่า ทางสถาบันคึกฤทธิ์เป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสส. และเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้อยู่คู่กับสังคมอย่างยาวนาน จึงมีการนำเอาศิลปะของชาติมาผนวกกับการสร้างสุขภาวะที่ดีของคนไทย
นอกจากโขนจะเป็นการแสดงที่คนไทยภาคภูมิใจแล้ว การฝึกโขนหรือการเต้นโขนเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาวะร่างกาย จิตใจและอารมณ์ของผู้ฝึกอีกด้วย
ผู้เล่นโขนจำเป็นต้องมีร่างกายแข็งแรง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงจริง ซึ่งต้องใส่หัวโขนและสวมชุดโขนที่หนักหลายกิโลกรัม ด้วยเหตุนี้จึงต้องฝึกฝนอย่างหนัก ต้องใช้พละกำลังและความอดทน ซึ่งการฝึกโขนนั้นไม่ต่างจากการออกกำลังกาย เพราะได้ออกแรงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และช่วยให้ระบบการหายใจทำงานดีขึ้น ส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิตทั่วร่างกาย
นอกจากนี้ การฝึกโขนยังส่งผลให้จิตใจผ่อนคลาย เกิดความเพลิดเพลิน ลดความตึงเครียดจากการเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะดนตรีช้าเร็วได้ ซึ่งการฝึกโขนสอดคล้องกับคำจำกัดความของกิจกรรมทางกายว่าเป็นการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องไปทำในสถานที่ออกกำลังกายอย่างเดียวเท่านั้น
ด้าน ครูสอนนาฏศิลป์ไทย นายธนากร รัตนเลิศ อายุ 23 ปี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้ใช้ในสิ่งที่เรียนมาสืบทอดต่อ ทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้ความรู้ ซึ่งตนเองก็ได้ร่วมแสดงด้วย และไม่ว่าไปแสดงที่ไหนก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้ง การแสดงครั้งนี้ยังเป็นการอวดศิลปะเก่าแก่ของไทยให้แก่ชาวต่างชาติได้ชม อีกทั้งยังชี้ให้เห็นว่าแม้แต่นาฏศิลป์ไทย การร่ายรำ ก็ยังเป็นกิจกรรมทางกายที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย กล้ามเนื้อทุกส่วนได้เคลื่อนไหว เสมือนทุกขณะที่ฝึกโขนก็เหมือนร่างกายได้ออกกำลังไปด้วย
น้องอั้ม-ปวรปรัชญ์ อิ่มละมัย อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้แสดงเป็นเสนายักษ์ กล่าวว่า การแสดงโขนต้องใช้ร่างกายหลายๆ ส่วน ดังนั้นจึงเป็นกิจกรรมทางกายโดยอัตโนมัติ ฝึกความแข็งแรงของร่างกาย อีกทั้งการเล่นโขนยังช่วยให้บุคลิกของเราดีขึ้น และทำให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มิฉะนั้นอาจหมดแรงได้ เพราะโขนต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง
ส่วน กัปตันสินนภ เทพรักษา อายุ 48 ปี ขณะเดียวกัน ในทางธรรม หลักการของนักบินบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บอกธรรมะ หรือกฎแห่งธรรมชาติ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญว่า ตนมีความสนใจอยากเรียนโขนจากการส่งลูกมาทางพุทธศาสนา ก็สอนให้เราได้รู้จักกับความดี เรียน เลยตัดสินใจขอเรียน โดยปีนี้เป็นปีที่ 2 เป็นความงาม อันเกิดจากการกระทำของตัวเอง เพื่อนักเรียนที่อายุเยอะที่สุด โขนนับเป็นศิลปะที่มีเสน่ห์ ทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง คล้ายคลึงกับแอโรบิกที่ต้องเคลื่อนไหวและเต้นไป เป็นความสุขที่มิได้เกิดจากความมั่งมี ด้วยเรื่อยๆ ทรัพย์สินเงินทองอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่เป็นนอกจากนี้ยังช่วยเรื่องสมาธิ เนื่องจากโขนความมั่งคั่งจากการสั่งสมสิ่งที่เป็นอริยทรัพย์มีจังหวะดนตรีประกอบในการรำ เราจำเป็นต้องนึกท่า ต้องมีสมาธิ แล้วก็ต้องควบคุมร่างกายตาม เป้าหมายในการเดินทาง นับแต่นี้จึงเป็นการจังหวะ ควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ค้นหาเพียงคุณค่าของสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเพื่อนช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นขึ้น โดยการแสดงครั้งมนุษย์ทางโลกและทางธรรมเท่านั้น ไม่ว่าจะเล่านี้ตนแสดงเป็นทศกัณฐ์
น้องกาย-รวิชญ์วงศ์ ภู่จันทร์ อายุ 12 ปี โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เยาวชนที่ได้มาร่วมเรียนโขนกับมูลนิธิคึกฤทธิ์ บอกว่า รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้มาเรียนโขน เพราะเป็นสิ่งที่ชอบ เหมือนเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง เพราะเวลาเล่นโขนก็ต้องมีการวอร์มร่างกายเหมือนก่อนเล่นกีฬา แต่การวอร์มของโขนจะใช้วิธีเต้นเสา โดยการเต้นกับที่แยกเท้าออกจากกันเล็กน้อย โดยหันปลายเท้าทั้งสองข้างออกนอกตัว ย่อเข่าลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นการฝึกกำลังขาโขนต้องใช้ขาเป็นหลัก ถ้าไม่มีกำลังขาก็จะสามารถยกขาได้แสดงได้
นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อและน่าภาคภูมิใจไม่น้อยที่เราสามารถนำศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามาประยุกต์ให้กับกิจกรรมทางกายซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ของโลกได้ สำคัญที่สุดคือ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาวะอย่างยั่งยืนอีกด้วย