สสส. สานพลัง ปั้นนิสิตแพทย์-คนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนชุมชนสู้โรค สกัด NCDs-ลดตาย-เชื่อมระบบสุขภาพยั่งยืน
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
‘Bootcamp 2025’ สสส.-สช.-สปสช. สานพลังปั้นนิสิตแพทย์-คนรุ่นใหม่หัวใจสุขภาพ จุดไฟนักขับเคลื่อนสุขภาวะเปลี่ยนชุมชนสู้โรค–ลดเสี่ยง–ขับเคลื่อนสุขภาพไทย สกัด NCDs-ลดตาย-เชื่อมระบบปฐมภูมิสุขภาพอย่างยั่งยืน
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 7 กล่าวในกิจกรรมโครงการ “Bootcamp 2025” ปีที่ 11 จัดโดย สสส. และสมาคมนิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติ (ประเทศไทย) (IFMSA-Thailand) ว่า Bootcamp เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการสร้างเสริมสุขภาพ ให้นิสิตนักศึกษาแพทย์และนักเรียนแพทย์ทหาร จากโรงเรียนผลิตแพทย์ที่แพทยสภารับรอง 28 สถาบันเข้าร่วม โดยเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาจากคณะอื่นๆ นอกจากคณะแพทย์เข้าร่วมการแข่งขันในการจัดทำโครงการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. มีพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์การส่งเสริมสุขภาพของคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในปัจจุบันที่โรคไม่ติดต่อ (NCDs) เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย ขณะเดียวกันไทยยังมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 20 คนต่อแสนประชากรต่อปี
รศ.นพ.สรนิต กล่าว “กิจกรรมนี้เป็นการส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษาแพทย์ได้พัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์เพื่อขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพในระดับชุมชน ให้นิสิตนักศึกษาแพทย์สามารถมีบทบาทในการป้องกันโรค NCDs และลดอุบัติเหตุ ร่วมพัฒนาสาธารณสุข สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคมอย่างรอบด้าน ทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ เพื่อทำให้ให้คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น จำนวนผู้ป่วยลดลง และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศ Bootcamp เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ เสริมความเข้าใจและพัฒนาศักยภาพในการสร้างเสริมสุขภาพ การพัฒนาระบบสาธารณสุข และการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ถือเป็นเวที ‘จุดประกาย’ ให้กับนักคิด นักพัฒนา และนักลงมือทำรุ่นใหม่ ได้ร่วมกันออกแบบแนวคิดและแผนงานที่ตอบโจทย์พื้นที่จริง ผ่านกระบวนการที่ยึดหลักนวัตกรรม การมีส่วนร่วม และความเข้าใจในบริบทของชุมชนอย่างลึกซึ้ง”
ผศ.ดร.นพ.สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ รองหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนิสิตนักศึกษาแพทย์รุ่นใหม่ที่จะได้รับประสบการณ์ จากการลงพื้นที่จริงเพื่อสร้างเสริมสุขภาพกับชุมชน ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และมีประโยชน์ต่อคนในชุมชน ขอแสดงความยินดีทั้ง 15 ทีมที่ได้เข้าร่วม ซึ่งทุกโครงการแสดงให้เห็นถึงพลัง ความคิด ไอเดียของคนรุ่นใหม่ เพราะสุขภาพเป็นเรื่องของทุกคน ทุกคณะ ทุกทีมที่จะได้รับรางวัลในครั้งนี้ จะได้นำไปสู่การทดลองทำจริงในชุมชน
ดร.ทพญ.น้ำเพชร ตั้งยิ่งยง ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนบริการปฐมภูมิและการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค สปสช. กล่าวว่า นิสิตควรเข้าใจระบบหลักประกันสุขภาพทั้ง 3 ระบบของรัฐ และเล็งเห็นช่องว่างในระบบบริการ เช่น ความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ คุณภาพบริการ และการใช้เทคโนโลยีที่ยังจำกัด การสร้างเสริมสุขภาพในยุคปัจจุบัน จึงต้องบูรณาการความรู้ด้านการแพทย์ เทคโนโลยี และนโยบาย เพื่อให้ทุกคนได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐาน รองรับสังคมสูงวัยและการควบคุมโรค NCDs การดูแลสุขภาพจิต และการใช้เทคโนโลยี เช่น Telehealth หรือ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสมเกียรติ พิทักษ์กมลพร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า สุขภาพควรถูกมองแบบองค์รวม ทั้งมิติร่างกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม โดย สช. ได้ร่วมมือกับ สสส. และสมาคมนิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติฯ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแนวนโยบายจากเยาวชน ผ่านข้อมูลเชิงหลักฐานและทีมพี่เลี้ยง เพื่อให้ข้อเสนอของนิสิตสามารถสะท้อนปัญหาสุขภาพในสังคม และผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริง แสดงให้เห็นว่าสุขภาพไม่ใช่เรื่องของแพทย์เพียงอย่างเดียว ทุกภาคส่วนมีบทบาทร่วมกันในการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน