สสส. สานพลังภาคีฯ ผลักดันปัญหาคนไทยไร้สิทธิ เข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ตั้งเป้าปี 70 ขยายหน่วยเก็บ DNA ครบ 13 เขต ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในผู้ป่วยตกสำรวจ

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                    ผลสำเร็จ 5 ปี MOU “คนไทยไม่ไร้สิทธิ” สสส. สานพลัง กระทรวงยุติธรรม ภาคีเครือข่าย 9 หน่วยงาน เร่งผลักดันคนไทยไร้สิทธิ เข้าสู่การตรวจพิสูจน์สิทธิ์ได้ 2,570 คน แก้ไขปัญหาสิทธิ-สถานะคนไทยไร้สิทธิ เข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ตั้งเป้าปี 70 เปิดหน่วยเก็บ DNA ครบ 13 เขต สปสช. ค้นหา-ประสาน-ติดตามสิทธิ ร่นระยะเวลาพิสูจน์จาก 10 ปี เหลือ 3-12 เดือน

                    เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 ณ ห้องประชุม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.) สถาบันเอเชียศึกษา และภาคีเครือข่าย มอบประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรองค์กรและบุคคลดีเด่น 20 โรงพยาบาล ที่จัดเก็บสารพันธุกรรม และสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิของคนไทยไร้สิทธิเป็นอย่างดียิ่ง ตามกรอบบันทึกความร่วมมือ (MOU) “การดำเนินงานพัฒนาการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพ ของคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน” 9 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงยุติธรรม สสส. สปสช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และ มพศ.

                    พ.ต.อ ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ปัญหาการไร้สิทธิ ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เป็นเรื่องสำคัญด้านสิทธิมนุษยชน กระทรวงยุติธรรมจึงให้ความสำคัญ และมุ่งหวังให้มีความเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มคน โดยมีนโยบายขับเคลื่อนกระทรวงยุติธรรมไปสู่ยุค“ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศ” โดยมุ่งเน้นการนำความยุติธรรม เข้าหาประชาชน มิใช่ให้ประชาชนเป็นผู้ต้องเข้ามาหาความยุติธรรมเพียงฝ่ายเดียว การเข้าถึงความยุติธรรมเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่มีคุณค่าต่อสังคม เป็นสิ่งที่ประชาชนจับต้องได้ ความถูกต้องและความยุติธรรมจะต้องเป็นเรื่องเดียวกัน ดังนั้น การช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้เข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างถ้วนหน้า จึงเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงยุติธรรม
“ในวันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาคนไทยไร้สิทธิสถานะ บุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ และผนึกกำลังเข้าช่วยเหลือ สร้างการเข้าถึงบริการให้กับผู้ประสบปัญหา ผ่านเครือข่ายจัดเก็บสารพันธุกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิสถานะทางทะเบียนราษฎร เพื่อให้คนเหล่านี้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้” พ.ต.อ ทวี กล่าว

                    นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ผลจากการดำเนินงานตาม MOU การดำเนินงานพัฒนาการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของทั้ง 9 หน่วยงาน ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน มีคนไทยไร้สิทธิและกลุ่มชาติพันธุ์ เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ เข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสิทธิสุขภาพที่เหมาะสมแล้วถึง 2,570 คน แบ่งเป็น กลุ่มคนไทยไร้สิทธิ 1,340 คน นอกจากนี้ สสส. ยังบูรณาการร่วมกับกรมการปกครอง โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สปสช. มพศ. กลุ่มส่งเสริมการเข้าถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพและสังคม (APASS) คืนสถานะกลุ่มคนไร้บ้าน กลุ่มคนไทยตกหล่น และกลุ่มชาติพันธุ์ ใน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อีก 1,230 คน อย่างไรก็ตาม ยังมีคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนอีก 991,425 คน ซึ่งต้องเร่งผลักดันให้คนกลุ่มนี้ได้รับการพิสูจน์สิทธิสถานะ เพื่อเข้าถึงระบบระบบหลักประกันสุขภาพ และสวัสดิการภาครัฐอย่างเท่าเทียม และทั่วถึง


                    “สสส. ร่วมดำเนินโครงการการพัฒนาเครือข่ายและกลไกระดับพื้นที่เพื่อสร้างการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ปี 2564 พัฒนาโรงพยาบาลให้บริการจัดเก็บ DNA ตรวจพิสูจน์สถานะ นำร่อง 1 จังหวัด 1 โรงพยาบาล ดำเนินการแล้วในโรงพยาบาล 20 แห่ง ใน 12 จังหวัด ช่วยร่นระยะเวลาพิสูจน์สิทธิให้เร็วขึ้นจากเดิมใช้เวลาเป็น 10 ปี เหลือเพียง 3-12 เดือน เป้าหมายต่อไปคือเร่งดำเนินการขยายหน่วยเก็บ DNA ให้ครอบคลุมทั้ง 13 เขต สปสช. ปัจจุบันเปิดได้ 9 เขต คาดการณ์ว่าจะครบในปี 2570 จะช่วยเสริมประสิทธิภาพคืนสิทธิให้คนไทย ไม่มีใครต้องไร้สิทธิ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายกับทางโรงพยาบาลในการรักษาผู้ป่วยตกสำรวจก่อนมีบัตรประชาชน” นางภรณี กล่าว

                    ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 คือ การดูแลคนไทยให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างครอบคลุม และทั่วถึงรวมถึงคนไทยที่มีปัญหาสิทธิสถานะ เป็นหนึ่งในนโยบายที่ สปสช.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการที่ยึดมั่นคือ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” และในวันนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของ สปสช. ที่ได้ร่วมกับทาง กทม. สสส. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และภาคีเครือข่าย สำหรับคนไทยที่มีปัญหาสิทธิสถานะนี้ กลุ่มเปราะบาง คนไร้บ้าน และคนไร้สิทธิ ซึ่งเป็นคนไทยตกหล่นด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ไม่ได้แจ้งเกิด เอกสารบุคคลสูญหาย ทำให้ไม่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเหมือนกับประชาชนทั่วไป โดยการมีหน่วยเก็บสิ่งส่งตรวจที่เข้มแข็ง จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสให้กลุ่มคนเปราะบาง ได้พิสูจน์สถานะความเป็นคนไทย และได้รับสิทธิต่างๆ ที่ควรได้รับ รวมถึงสิทธิบัตรทอง 30 บาท ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

                    นายปฐมฤกษ์ เกตุทัต ประธาน มพศ. และผู้แทนภาคีเครือข่ายภาคประชาชน กล่าวว่า มพศ. ทำหน้าที่เชื่อมเครือข่าย พัฒนาศักยภาพ และความรู้ในด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร การแยกประเภทกลุ่มคนที่มีปัญหาสิทธิสถานะบุคคลให้ชัดเจน เพื่อให้แกนนำเข้าใจได้ง่าย สนับสนุนการถอดบทเรียนและชุดความรู้ เป็นเครื่องมือตั้งต้นเมื่อต้องนำผู้ประสบปัญหาไปยื่นคำร้อง ณ ที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นต่างๆ ช่วยลดข้อขัดแย้งในการพิสูจน์ตัวตน นอกจากนี้ยังประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่ออุดช่องโหว่ด้านกฎหมาย ข้อระเบียบของ รพ. โดยคณะทำงานฯ ติดตามการทำงานให้กลุ่มผู้มีปัญหา สามารถยื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อ ขอทำบัตรประชาชนด้วยตนเอง และหาแนวทางรูปแบบการดำเนินงานในพื้นที่ต่าง ๆ ให้เกิดรูปธรรมที่เหมาะสมในระดับพื้นที่ เช่น
อ.กาบเชิงโมเดล เป็นการทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทั้ง ประชาชน สำนักทะเบียน และโรงพยาบาล อย่างเป็นระบบ คืนสิทฺธิ สวัสดิการทางสังคม สุขภาพ การศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง

Shares:
QR Code :
QR Code