สสส.ร่วมกับกมธ.สวัสดิการสังคมจัดตรวจสุขภาพ ส.ส.-ส.ว.ปีที่ 4

สสส.ร่วมกับกมธ.สวัสดิการสังคม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เครือข่ายคนไทยไร้พุง จัดตรวจสุขภาพ ส.ส.-ส.ว.ปีที่ 4 เผยผลดำเนินการระยะหลังเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ส.ส.-ส.ว.หันมาสนใจรักษาสุขภาพ ปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพดีขึ้น


สสส.ร่วมกับกมธ.สวัสดิการสังคมจัดตรวจสุขภาพ ส.ส.-ส.ว.ปีที่ 4

นางนันทนา ทิมสุวรรณ ประธาน กมธ.สวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง กมธ.สวัสดิการสังคม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัย สสส.และภาคีเครือข่าย สสส.ที่ตระหนักถึงความมีสุขภาพดีของประชาชนที่จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจากภาครัฐตามสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ในฐานะประชาชนไทย จึงได้ร่วมกันจัดโครงการ เพื่อให้บุคลากรในรัฐสภาได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นเพื่อนำไปปฏิบัติเพื่อสุขภาพดีของตนเอง พร้อมกระต้นเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ นำไปสู่สุขภาพที่ดี มีการจัดงานสามวัน ประกอบด้วย โซนตรวจสุขภาพเบื้องต้น การวัดความดัน ตรวจมวลร่างกาย ปรึกษาโภชนาการ โซนสาธิตนวัตกรรมใหม่ นวดบำบัดด้วยผ้าขาวม้า โซนนิทรรศการให้ความรู้โรคเสี่ยง การดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการและข้อมูลการนวดด้วยผ้าขาวม้า โซนดนตรีบำบัด และโซนเครื่องดื่มสมุนไพร


ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวว่า จากการที่ กมธ.สวัสดิการสังคม สภาฯ สำนักงานเลขาธิการสภาฯ สสส.เล็งเห็นความสำคัญด้านสุขภาพของประชากร ไม่ว่า ส.ส. ส.ว.ที่ต้องปฏิบัติงานอย่างหนักและต่อเนื่อง บางครั้งมีการประชุมดึก ส่งผลให้เกิดการเหนื่อยล้า เครียดสะสม ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ส่งผลให้เป็นโรคต่างๆ หลายโรค เช่น โรคเครียด โรคอ้วน โรคอ้วน โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน ดังนั้นในการที่ กมธ.สวัสดิการสังคมฯ ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้นนับเป็นประโยชน์ในการกระตุ้นเตือนให้เกิดความตระหนักในการใส่ใจดูแลสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจมีความพร้อมในการทำงาน อันส่งผลต่อการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดโรคเสี่ยงต่างๆ ด้วย


นพ.ฆนัท นุธกูล กรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวว่า การดูแลสุขภาพเน้นอยู่ 2 ส่วนคือ ประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคและควบคุมปัจจัยที่จะทำให้เกิดโรค และการส่งเสริมให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคอยู่แล้ว โดยใช้การดูแลสุขภาพตนเองเป็นหลักควบคู่กับการรักษา เช่น บางคนมีโรคเบาหวานหากดูแลดีๆ ก็จะดูแลโรคได้ สำหรับการดำเนินงานของโครงการฯ ในช่วง 1-2 ปี พบว่าสุขภาพ ส.ส. มีแนวโน้มที่มีน้ำหนักมากขึ้น มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง แต่ในระยะปีที่ 3-4 นี้ จากที่ทุกคนเริ่มรู้ตัวและปฏิบัติตนอย่างถูกวิธี พบว่าแนวโน้มดังกล่าวไม่ได้สูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเรื่องนี้เป็นกระแสที่ใส่ใจให้ดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป





เรื่องโดย: สุนันทา สุขสุมิตร Team Content www.thaihealth.or.th


 

Shares:
QR Code :
QR Code