สสส.ยกระดับร้านอาหาร-แผงลอย 7 จว.ใต้รับอาเซียน

 

สสส.ยกระดับร้านอาหาร-แผงลอย 7 จว.ใต้รับอาเซียน

 

สสส. พัฒนาเครือข่ายมาตรฐานผู้ประกอบการร้านอาหาร และแผงลอย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ที่โรงแรมพาวีเลี่ยนสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดการประชุมการพัฒนาเครือข่ายมาตรฐานร้านอาหารและแผงลอย ของชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอย 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอย และคัดเลือกแผงลอยพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดพัทลุงให้เป็นจังหวัดนำร่องของร้านอาหารและแผงลอยต้นแบบ เพื่อการเรียนรู้ ต่อยอดไปสู่โครงการครัวไทยสู่ครัวโลกของรัฐบาล โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมพัฒนาเครือข่ายในครั้งนี้ โดยมีเครือข่ายร้านอาหารและแผงลอย ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี สตูล ตรัง พัทลุง และจังหวัดสงขลา

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า สมาคมภัตตาคารไทย เป็นสมาคมวิชาชีพในการประกอบการค้าอาหารที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผลักดันให้มีการพัฒนามาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายชมรมร้านอาหารและแผงลอย เพื่อให้ประชาชนชาวไทยมีสุขภาพที่ดี จากการบริโภคอาหารในร้านอาหารที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ รวมทั้งกระตุ้นการเตรียมความพร้อมร้านอาหารและแผงลอยเพื่อรวมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในด้านมาตรฐานต่างๆ ในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ด้าน น.ส.ณัจยา แก้วนุ้ย ผู้จัดการโครงการเทศกาลอาหาร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า วันนี้ทางผู้จัดโครงการได้เลือกจังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดนำร่อง สืบเนื่องจากจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ของไทย และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเป็นหลักที่มีเศรษฐกิจดี จึงมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาในเรื่องสุขาภิบาล และโภชนาการอาหารในช่วงเทศกาลอาหารต่างๆ ในจังหวัดสงขลา ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ก็ได้เสริมกิจกรรมปลอดภัยไร้แอกฮอล์ เพื่อสกัดนักดื่มรุ่นใหม่ให้ลด ละ เลิก และสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว จะเกิดความปลอดภัยทั้งร่างกาย และทรัพย์สินอีกด้วย

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code