สสส.-มธ. เผยผลการศึกษาฯ ทัศนคติสังคมต่อสูงวัย สะท้อน ‘กตัญญู’ ค่านิยมเชิงบวก แต่มองสูงวัยคือภาระ เสนอภาครัฐ-ครอบครัว – สื่อ อุดช่องว่าง สูงวัย ลดอคติ

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                    วันที่ 23 พ.ค. 2566 ณ ห้องพระมาตุลี 1 ชั้น 2 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดประชุมเพื่อคืนข้อมูลและวิพากษ์ผลการศึกษา สู่การพัฒนาตัวแบบในการปฏิบัติ และคุ้มครองผู้สูงอายุ

                    นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า “โครงสร้างประชากรของโลกมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่เข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ทำให้มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้สังคมปัจจุบันมีการอยู่ร่วมกันหลายช่วงวัย คนแต่ละรุ่นมีความคิด มุมมองที่ต่างกัน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง สสส. สนับสนุน การศึกษาเรื่อง “ทัศนคติ การปฏิบัติ และตัวแบบในการส่งเสริมค่านิยมที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุในสังคมไทย” เพื่อสร้างความเข้าใจ ความคิดคนกลุ่มวัยต่าง ๆ ยกระดับความคุ้มครองทางสังคมต่อผู้สูงอายุ สร้างค่านิยม ลดวยาคติ หรืออคติระหว่างช่วงวัย”

                    “ปัจจุบันยังมีมุมมองต่อผู้สูงอายุว่าเป็นวัยแห่งความเสื่อมถอยและเป็นภาระ ในขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และจิตใจของผู้สูงอายุ ส่งผลให้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม ทำให้เกิดความไม่เข้าใจของคนวัยอื่น ๆ กลายเป็นช่องว่างในการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน สสส. ให้ความสำคัญกับการศึกษาสถานการณ์ ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนค้นหาแนวทางเพื่อสร้างทัศนคติเชิงบวกต่อผู้สูงอายุ และลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย เพื่อให้เห็นว่าผู้สูงอายุยังเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว ชุมชน และสังคม เช่น การพัฒนาวงดนตรีผู้สูงอายุ Bennetty 3 รุ่น เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพ และเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้สูงอายุในการทำสิ่งที่สนใจ กิจกรรม Workshop “เราต่างเหมือนกัน” เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างวัย เปลี่ยนทัศนคติ และการอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  การทำกิจกรรมระหว่างผู้สูงอายุและเยาวชน ผ่านกลไกชมรมผู้สูงอายุ  มีโรงเรียนผู้สูงอายุเป็นพื้นที่กลางในการทำกิจกรรมร่วมกัน ส่งเสริมการเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยีในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล เพื่อเป็นการหนุนเสริมลดช่องว่างระหว่างวัย ในการสื่อสารอีกทางหนึ่ง” นางภรณี กล่าว

                    รศ.ดร. วรรณลักษณ์ เมียนเกิด อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และหัวหน้าโครงการตัวแบบการปฏิบัติ และคุ้มครองผู้สูงอายุในสังคมไทยผ่านกิจกรรมเสริมสร้างค่านิยมของกลุ่มวัยต่าง ๆ กล่าวว่า “ผลการศึกษาด้านค่านิยม พบว่า ทุกช่วงวัยมีความเชื่อเชิงบวกต่อการดูแลผู้สูงอายุ เป็นการแสดงความกตัญญู ส่วนเชิงลบเชื่อว่า ผู้สูงอายุไม่สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้สังคมได้ ทั้งนี้ข้อมูลสะท้อนให้เห็นการปฏิบัติเชิงลบ เช่น ห่างเหิน ทำร้าย หลอกลวง และทอดทิ้ง และมีข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการแก้ไขปัญหานี้ คือ 1) ภาครัฐควรทบทวนมาตรการ และกลไกส่งเสริมค่านิยมให้ทันสมัย 2) นโยบายส่งเสริมยอมรับความแตกต่าง 3) บูรณาการหน่วยงาน/องค์กร สร้างความเข้มแข็ง และความอบอุ่นในครอบครัว 4) สร้างนวัตกรรม เข้าใจผู้สูงอายุ”

                    “สถาบันครอบครัว คือกลไกแรกที่ช่วยเสริม ภาครัฐขับเคลื่อนสภาพแวดล้อม สร้างค่านิยม สถาบันการศึกษาผลิตสื่อปลูกฝัง สร้างสรรค์กิจกรรม สถาบันสื่อ และสถาบันศาสนา ร่วมกันเผยแพร่เนื้อหา การอยู่ร่วมกันกับคนทุกวัย ลดช่องว่าง สร้างค่านิยม เป็นหลักประกันว่าเด็ก เยาวชน และวัยผู้ใหญ่ ที่จะก้าวเป็นผู้สูงอายุ จะได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมเช่นเดียวกันในอนาคต” รศ.ดร. วรรณลักษณ์ กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code