สสส. – ภาคี รำลึก “วันเหยื่อโลก” ญาติเหยื่อยื่น 5 ข้อเสนอ ใช้ทางปลอดภัย ไม่ต้องสูญเสียคนที่รัก

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข

ภาพประกอบจาก สสส.

                    สสส. สานพลังเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนรำลึก “วันเหยื่อโลก” ห่วงสถานการณ์ถนนไทยยังไม่ปลอดภัยปี 2566 เสียชีวิต 17,498 คน พิการเฉลี่ยปีละ 10,000 คน ญาติเหยื่อยื่น 5 ข้อเสนอ หวังทุกฝ่ายร่วมใช้ทางปลอดภัย ไม่ต้องสูญเสียคนที่รัก-เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก-เยาวชน


                    วันที่ 15 พ.ย. 2567  ที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต จัดเวทีแสดงพลัง “จากดอกไม้แห่งความสูญเสีย สู่ความปลอดภัยทางถนน” พร้อมนำเสนอละครสั้น สะท้อนถึงคนที่ยังอยู่จากครอบครัวที่สูญเสีย เนื่องใน “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” ปี 2567 (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. 2567


                    นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเนื่องในวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเตือนใจประชาชนให้ร่วมกันรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางถนนที่จากไป ทั้งนี้ปัจจุบันสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของไทยไทยยังน่าห่วง ข้อมูลการบูรณาการจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 3 ฐาน ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปี 2566 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 17,498 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 48 ราย และยังมีคนที่ต้องกลายเป็นผู้พิการตลอดชีวิต เฉลี่ยปีละ 10,00 คน จึงจำเป็นยิ่งที่ต้องร่วมมือกันทำงานอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ทุกฝ่าย ตระหนักรู้ถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย


                    “ขอแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนทุกคน การจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นกลุ่มผู้ที่เคยสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากอุบัติเหตุทางถนนมาร่วมกันจัดขึ้น และสามารถแปลงความเสียใจนั้นมาเป็นพลัง และร่วมกันเป็นเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อร่วมกันรณรงค์และกระตุ้นเตือนคนในสังคม ให้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด” นายสุรชัย กล่าว

                    นางก่องกาญจน์ ทักษ์หิรัญฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ความตั้งใจของการรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนในปีนี้ มุ่งหวังไม่ให้มีผู้ที่ต้องสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนอีก โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ สสส. มีจุดเน้น และเป้าหมายการทำงานสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนกับทุกภาคส่วน เพื่อลดความสูญเสีย และสร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับเด็ก และเยาวชนต่อไป ในปีนี้องค์การสหประชาชาติ (UNITED NATION : UN) ได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกทั่วโลก จัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ให้สังคมตระหนักถึงผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนทุกปี เป็นวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ในปี 2567 นี้ ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. 2567 โดยมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับโรตารีประเทศไทย UN ภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคสังคม ภาคเอกชน จัดกิจกรรมร่วมรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมกันทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ กทม. จะมีการร่วมเดินรณรงค์จาก ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไปยังอาคารองค์การสหประชาชาติในประเทศไทย (UN) ร่วมกันทำกิจกรรมรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน โดยในระดับจังหวัดแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดงานสร้างความตระหนัก และรำลึกถึงผู้สูญเสียทั่วประเทศ


                    นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล คุณแม่ของคุณหมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล ในฐานะประธานเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน กล่าวว่า ในโอกาสวันเหยื่อโลกปี 2567 ภาคีเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนได้มีข้อเสนอ เพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน 1. ขอให้ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มีการเพิ่มโทษสำหรับการฝ่าฝืน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อลดการกระทำผิดซ้ำ 2. ปรับปรุงการออกใบอนุญาตใบขับขี่ ให้เหมาะสมกับรถแต่ละประเภท ควบคุมให้การออกใบอนุญาตมีมาตรการประเมินการคาดการณ์อุบัติเหตุ เพิ่มเติมจากการสอบเนื้อหาทางกฎหมายทั่วไป 3. ออกกฎหมาย และมาตรการทางสังคมเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพประชาชน เช่น กำหนดความเร็วในเขตเมืองไม่เกิน 50 กม./ชั่วโมง สำหรับรถทุกประเภท เพิ่มโทษพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน 4. เพิ่มบทลงโทษผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรที่ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย และผู้ขับขี่บนทางเท้า พร้อมทั้งปรับปรุงเพิ่มสัญลักษณ์จราจร ทำสีถนน ป้ายคำเตือนก่อนถึงทางม้าลาย กวดขันวินัยเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างจริงจัง เช่น การสวมหมวกนิรภัย การต่อ พ.ร.บ. ทะเบียนรถ 5. เพิ่มโทษหนักกับคนดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ทั้งจำคุกและโทษปรับ โดยมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง รวมถึงประสานงานกับสถานประกอบการต้นสังกัดผู้กระทำผิดให้มีมาตรการลงโทษ ตลอดจนมีการปลูกฝังสร้างความตระหนักรู้การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน โดยดำเนินการทั้งในสถานประกอบการ และโรงเรียน


                    “ดิฉัน และผู้ที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวจากอุบัติเหตุทางถนน ได้รวมตัวกันตั้งเครือข่ายพลังผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเปลี่ยนความเสียใจจากการสูญเสียคนที่รักมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนในสังคม ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนน และที่สำคัญเราอยากเป็นหนึ่งกำลังใจเพื่อเยียวยาซึ่งกันและกันให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป” นางรัชนี กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code