‘สสส.-นครพนม’ จับมือพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะ
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
สสส จับมือ ม.นครพนม ลงนามความร่วมมือ พัฒนาการศึกษาตามแนวคิดการสร้างเสริมโรงเรียนสุขภาวะ
วันที่ 29 มิ.ย.59 ที่มหาวิทยาลัยนครพนม ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มหาวิทยาลัยนครพนม และสำนักงานศึกษาธิการภาค 11 เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามแนวคิดการเสริมสร้างโรงเรียนสุขภาวะ โดยมีนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้เกียรติเป็นประธาน
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ความท้าทายต่อการเสริมสร้างสุขภาวะในทศวรรษหน้าคือ การก้าวพ้นต่อพฤติกรรมเสี่ยง ได้แก่ การบริโภคสุรา ยาสูบ และสารเสพติด การขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม ทานผักผลไม้น้อย และขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีพฤติกรรมสุขภาวะ ทั้งสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ทางสังคม เศรษฐกิจ การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม หลักการทำงานของ สสส.จึงมุ่งเน้นการแก้ปัญหาด้วยหลักปัจจัยทางสังคมกำหนดสุขภาพโดยมุ่งสร้างสุขภาวะที่ครอบคลุมทั้งกาย ใจ สังคม ปัญญาให้คนไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดการศึกษาเป็นปัจจัยทางสังคมที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ การเรียนรู้ที่ดีทำให้มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขและร่วมพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
"เด็กเยาวชนถือเป็นยุทธศาสตร์การทำงานเชิงรุกของ สสส. ซึ่งโรงเรียนเป็นฐานในการทำงานที่สำคัญ จึงมีแนวคิดส่งเสริมให้เกิดโรงเรียนสุขภาวะ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การทำให้ผู้เรียนเป็นสุข ทั้งร่างกาย จิตใจ ทักษะชีวิต ความเป็นพลเมืองดี และความรักในการเรียนรู้ การจะทำเช่นนั้นได้ต้องทำทั้งการลดปัจจัยเสี่ยง จัดโครงสร้างและระบบต่างๆ ให้โรงเรียน สภาพแวดล้อม ครอบครัว และชุมชนเป็นพื้นที่ปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาวะของผู้เรียนทั้งด้านกาย ใจ สังคม และปัญญา จึงต้องทำงานร่วมกันของคน 4 กลุ่ม คือ ผู้ปกครองและชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร และครู ทั้งนี้ความร่วมมือในการพัฒนาโรงเรียนสุขภาวะในพื้นที่ จ.นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร ในพื้นที่ของสำนักงานศึกษาธิการภาค 11 จะมีผลต่อโรงเรียนทั้ง 1,435 แห่ง และนักเรียนอีก 300,160 คน รวมทั้งเป็นตัวอย่างในการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไปในอนาคต" ผู้จัดการ สสส.กล่าว