สสส.ชวนขยับทั้งประเทศ

ขยายผลต่อยอดไปทั่วประเทศเพื่อสร้างสุขภาวะ

 

สสส.ชวนขยับทั้งประเทศ

          “มหกรรมกีฬามหามงคล 2553” เป็นกิจกรรมต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยเลือกวันมหามงคล วันฉัตรมงคล 5 พ.ค. เป็นวันเปิดงาน ปีนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข,กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, การกีฬาแห่งประเทศไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยเครือข่ายภาคี ได้จัดงาน มหกรรมกีฬามหามงคล2553 เทิดพระเกียรติ 60 ปี พระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด”ชวนขยับทั้งประเทศ”โดยมี นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมผู้แทนคณะผู้จัดงาน นำโดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้สนับสนุน ตัวแทนนักกีฬา ศิลปินดาราเข้าร่วมงาน โดยได้รับความสนใจจากประชาชนคนรักสุขภาพทุกเพศทุกวัยเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

 

          ทพ.กฤษดากล่าวว่า สสส. เป็นองค์กรด้านสุขภาพที่เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี โดยมุ่งมั่นในการจุดประกาย กระตุ้น สนับสนุนประสานความร่วมมือเพื่อให้คนไทยริเริ่มกิจกรรมหรือโครงการสร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งปฏิบัติการใหม่ ๆ อันจะนำไปสู่การขยายค่านิยมและการสร้างพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและกว้างขวาง ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า”คนไทยมีสุขภาวะอย่างยั่งยืน” โดยการจัดงาน”มหกรรมกีฬามหามงคล”ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ สสส. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี ซึ่งในปีนี้ สสส. สนับสนุนกิจกรรมออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว

 

          “จากผลการสำรวจพฤติกรรมการออกกำลังกายของประชากรอายุ 11 ปีขึ้นไป พบว่าปัจจุบันประชาชนมีแนวโน้มของการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น คือ จากร้อยละ 29.0 ในปี 2546 เพิ่มเป็นร้อยละ 29.6 ในปี 2550 หรือราว 16.3 ล้านคน โดยมีผู้ออกกำลังกายสม่ำเสมอคือ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ มากถึงร้อยละ 38.2 โดยกลุ่มเด็กวัย 11-14 ปี ออกกำลังกายมากที่สุด และใช้เวลาออกกำลังกายนานครั้งละ 21-60 นาที ส่วนใหญ่นิยมออกกำลังกายที่บริเวณบ้าน รองลงมาคือสนามกีฬาของสถานศึกษา และบริเวณสถานศึกษาตามลำดับ สสส. และภาคีเครือข่ายจึงขอเชิญชวนให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกวัย ร่วมกันออกกำลังกาย ตามความสนใจและเหมาะสมกับตนเองอย่างน้อยสัปดาห์ละ3 วัน วันละ 30 นาทีเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์” ทพ.กฤษดากล่าว

 

          ด้าน นายวิวัฒน์วิกรานตโนรส ประธานแผนงานส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวถึงกิจกรรมภายในงานว่า ในปีนี้กิจกรรมจะอยู่ภายใต้แนวคิด “ชวนขยับทั้งประเทศ”ซึ่งมาจากปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่อาจจะมีภาระหน้าที่ที่มากขึ้นจนลืมออกกำลังกาย และมองว่าการออกกำลังกายสักครั้งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องมีสถานที่ ต้องมีอุปกรณ์ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้จึงอยากจะสื่อถึงทุก ๆ กิจกรรม หรือการ “ขยับ” ที่สามารถเป็นการออกกำลังกายได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง เป็นกิจกรรมที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ

 

          อนึ่ง มหกรรมกีฬามหามงคล 2553 เทิดพระเกียรติ 60 ปี พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ภายใต้แนวคิด “ชวนขยับทั้งประเทศ”มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการออกกำลังกาย กีฬาสาธิต และกิจกรรมนันทนาการมากมายที่จะมา “ชวนขยับ” หลากหลายรูปแบบ ทั้งเวทีนวัตกรรมการออกกำลังกาย กับกิจกรรมบนเวทีหลากรูปแบบ โดยเฉพาะต้นแบบนวัตกรรมการออกกำลังกายสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมจากแต่ละชุมชนทั่วประเทศ

 

          นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรมให้ร่วม “ขยับ”ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซน “ขยับตามรอยเท้าพ่อ”กับนิทรรศการพระมหากษัตริย์นักกีฬาในรูปแบบสนามกีฬาจำลอง และเชิญร่วมลงนามถวายพระพรเนื่องในวันฉัตรมงคล พร้อมร่วมชมการจัดรายการ สถานีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ที่จะ”ชวนขยับ” กันแบบสด ๆ โซน”ขยับไว้ลายไทย”กับนวัตกรรมการออกกำลังกายที่ประยุกต์จากวัฒนธรรมพื้นบ้าน กีฬาท้องถิ่นทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นแอโรบิกฟ้อนยอง รำมอญ แอโรบิกแผนไทย โนราบิก รำแม่มด หมากรุกคน พร้อมร่วมแข่งกีฬาชาวดอยหลากประเภท

 

          นอกจากนี้ยังมี โซน “ขยับแข้ง ขยับขา”กับกิจกรรมสันทนาการหลากหลายรูปแบบทั้งเอ็กซ์ตรีม, จักรยานผาดโผน, บี-บอย, แมดฮอบ และ คัฟเวอร์ เจ-ป๊อป/เค-ป๊อป ในแบบฉบับคนรุ่นใหม่ และปิดท้ายกับการ “ขยับสมอง”ใช้ความคิดกับกิจกรรมกระตุ้นความฟิตให้สมองมากมาย

 

          “กิจกรรมที่สำคัญของการจัดงานครั้งนี้คือการแนะนำ สาธิต กิจกรรมการออกกำลังกายและกีฬา กิจกรรมนันทนาการ และวิธีการจัดการเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถเป็นโครงการต้นแบบให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดการนำไปขยายผลต่อยอดไปทั่วประเทศได้เพื่อสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปณิธานสำคัญของ สสส.” ประธานแผนงานส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุ

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update: 10-05-53

อัพเดทเนื้อหาโดย: ภราดร เดชสาร

Shares:
QR Code :
QR Code