สสส.จับมือมหาดไทยออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในศูนย์ราชการทั่วไทย

หลังพบเยาวชนอายุ 15-24 ปี สูบบุหรี่สูงเพิ่ม

 

 สสส.จับมือมหาดไทยออกกฎห้ามสูบบุหรี่ในศูนย์ราชการทั่วไทย

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์เสรี หงษ์หยก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 1 นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินการเพื่อให้ศูนย์ราชการในจังหวัดภาคกลางเป็นเขตปลอดบุหรี่ พร้อมทั้งร่วมประชุมชี้แจงผู้ที่เกี่ยวข้อง 26 จังหวัดภาคกลาง เพื่อรับรู้และทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีผู้เข้าร่วม จำนวน 100 คน ที่ โรงแรมอู่ทองอินน์ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

          นายแพทย์เสรี กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ต่อยอดจากการดำเนินการ   ให้สถานที่ราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่ในปี 2549 ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วครบทั้ง 20 กระทรวง  กับอีก 9 หน่วยงานในส่วนกลาง ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการนี้เห็นด้วยถึง  ร้อยละ 73.59 และรับรู้ว่าสถานที่ราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ร้อยละ 90.57 จึงได้มีการขยายผลในการจัดการให้สถานที่หน่วยงานราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายต่อไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2551 นี้

 

โดยจะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับศูนย์ราชการทั้ง 75 จังหวัด และได้มีการสนับสนุน 8 จังหวัดนำร่อง คือ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา และ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะขยายการดำเนินการให้  ครอบคลุมถึงเขตอำเภอเมืองทั้งหมด พระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535   ได้กำหนดให้สถานที่ราชการต้องจัดเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายสำหรับหน่วยงานที่ละเมิดฝ่าฝืน  ดังกล่าวจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยการผลักดันในเรื่องนี้นั้นมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่

 

          นายเริงศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขต 1 กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจไว้ปี 2549 ซึ่งพบว่ากลุ่มเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี สูบบุหรี่สูงเป็นอันดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 14.1 รองจากกลุ่มคนทำงาน อายุ 25-59 ปี ร้อยละ 25 และกลุ่มประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ ร้อยละ 19.2 โดยภาคกลาง (ไม่รวมกรุงเทพฯ) มีอัตราการสูบบุหรี่สูงเป็นอันดับ 4 ร้อยละ 16.5 และกรุงเทพมหานครมีอัตราการสูบบุหรี่เป็นประจำต่ำกว่าทุกภาค คือ ร้อยละ 13.9 โดยภาคใต้มีอัตราผู้สูบบุหรี่เป็นอันดับ 1 สูงถึงร้อยละ 23.5

 

 

รองลงมาเป็น ภาคเหนือ ร้อยละ 21.5 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 21.4 โดยมีนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนไทยปีละประมาณ 200,000 คน ด้าน นายแพทย์สมาน ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ  ยาสูบ กล่าวว่า ในการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อจัดสถานที่ราชการให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมายซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือและพื้นที่ 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

 

update 22-05-51

 

 

 

 

 

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code