สสส. จัดงานรณรงค์ลดปัจจัยเสี่ยง “Halloween City เมืองลวง เด็กหลอน” เผยเสียงสะท้อนเยาวชน 74% เห็นด้วยเพิ่มมาตรการเข้าถึงกัญชา-กระท่อม
ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข
ภาพประกอบจาก สสส.
สสส.-เครือข่ายเยาวชนฯ รณรงค์วันฮาโลวีน “HALLOWEEN CITY เมืองลวง เด็กหลอน” เยาวชน 73.83% ขอภาครัฐเร่งออกมาตรการป้องกันเข้าถึงกระท่อม-กัญชา สำรวจ 10 พื้นที่รอบมหาวิทยาลัยดัง พบร้านกระท่อม 9 แห่ง กัญชา 3 แห่งต่อมหาวิทยาลัย ล่าสุดมาในรูปแบบคาเฟ่ ด้าน “ตั้ม ฮาล้านเน็ตไอดอล” เล่าชีวิตเคยป่วยหนักจากพิษน้ำท่อม เตือนอย่าริลอง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 ต.ค. 2566 ที่ลานกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว เครือข่ายละครเฉพาะกิจเธียเตอร์ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันฮาโลวีน 2566 “HALLOWEEN CITY เมืองลวง เด็กหลอน”
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. กล่าวว่า “ผลกระทบเกิดจากปัจจัยเสี่ยงทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน บุหรี่ และยาเสพติด ถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ที่มักพบว่ามีเด็ก เยาวชนจำนวนมากเข้าไปอยู่ในวงจรเหล่านี้ จากการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรไทย ปี 2564 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบเยาวชนอายุ 15-24 ปี สูบบุหรี่ 12.7% เป็นนักสูบหน้าใหม่ที่เพิ่งสูบไม่เกิน 1 ปี 211,474 คน ในจำนวนนี้มี 73.7% เริ่มสูบบุหรี่ช่วงอายุ 15-19 ปี และยังพบคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 78,742 คน คิดเป็น 0.14% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี ในปี 2547-2558 มีการดื่มเพิ่มขึ้น 23.5-29.5% และลดเหลือ 20.9% หรือประมาณ 1.9 ล้านคน ในปี 2564 โดยกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี เป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด และเกิดเหตุในช่วงเวลากลางคืนสูงถึง 44% จากสถานการณ์การพนันปี 2564 มีเด็กและเยาวชนอายุ 15-25 ปีเล่นการพนัน 4.3 ล้านคน ฮาโลวีนนี้ ระวังอย่าให้ผีพนันเข้าสิง เพราะช่องทางที่เข้าถึงการพนันมีหลากหลายช่องทาง พร้อมอำนวยความสะดวกให้เล่นพนันได้ง่ายขึ้น ยิ่งเล่นยิ่งติด ทำให้ถอนตัวหรือเลิกได้ยาก กว่าจะรู้ตัวก็แทบจะหมดตัว”
“ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องใส่ใจและจริงจังกับการป้องกัน แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนเข้าถึงสิ่งเสพติด ต้องมีนโยบายปกป้องเด็ก มีมาตรการจัดการกับคนที่หาประโยชน์กับเด็กและเยาวชนอย่างเด็ดขาด รับฟังเสียงเด็ก เยาวชนให้มากขึ้น เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ เป็นทางเลือกให้เยาวชนได้ร่วมกันออกแบบอนาคตของเขาเอง กิจกรรมฮาโลวีนซิตี้เมืองลวง เด็กหลอน จึงเหมือนการสะท้อนปัญหาที่เด็กและเยาวชนไทยต้องเผชิญและสื่อสารเพื่อป้องกันเยาวชนไม่ตกเป็นเหยื่อการตลาดร้านเหล้าผับบาร์ ที่โหมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในวันฮาโลวีน” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
นางสาวปาลิณี ต่างสี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า “เทศกาลวันฮาโลวีนคือช่วงเวลาที่ร้านเหล้าผับ บาร์ต่างฉวยโอกาสในการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เยาวชนเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมาย จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลรอบมหาวิทยาลัย 10 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยธนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม พบร้านจำหน่ายกระท่อม 90 แห่ง ร้านกัญชา 32 แห่ง และร้านที่ขายทั้งกระท่อมและกัญชา 11 แห่ง เฉลี่ยในหนึ่งมหาวิทยาลัยมีร้านขายกระท่อม 9 แห่ง ขายกัญชา 3 แห่ง และขายทั้งกระท่อมและกัญชา 1 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นร้านประจำ แผงลอย คาแฟ่ และรถเก๋ง กระบะ”
นางสาวปาลิณี กล่าวต่อว่า “เครือข่ายฯ ยังได้สำรวจความเห็นเยาวชนอายุ 13-25 ปี ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,200 คน ระหว่างวันที่ 20-27 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่า เคยใช้กัญชา 28.33% ไม่เคยใช้ 71.67% เคยใช้กระท่อม 28.42% ไม่เคยใช้ 71.58% ที่สำคัญ 73.83% เห็นว่าควรปรับปรุงกฎหมาย เพิ่มมาตรการป้องกันการเข้าถึงกัญชากับกระท่อมของเด็กและเยาวชน มีเพียง 26.17% ที่ไม่เห็นด้วย ส่วนนโยบายขยายเวลาเปิดผับบาร์ 04.00 น. นั้น ไม่เห็นด้วย 52.08 % โดยให้เหตุผลว่าทำให้เกิดเสียงดัง ทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุอาชญากรรม และเสียสุขภาพ”
“นี่คือความพยายามของเราในฐานะเด็ก เยาวชน ที่ต้องการส่งเสียงสะท้อนความจริงต่อผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้เร่งทบทวนนโยบายกัญชาและพืชกระท่อม เป็นการด่วน รวมถึงทุกนโยบายที่จะเป็นการเพิ่มพื้นที่เสี่ยง เพิ่มพื้นที่อบายมุข ที่ยังไม่มีมาตรการปกป้องเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่ดีพอ ทั้งเหล้า บุหรี่ไฟฟ้า การพนันในรูปแบบต่าง ๆ หวังว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะได้ยินเสียงของเรา เยาวชนที่ตื่นรู้และไม่เพิกเฉยต่อความผิดปกติของบ้านเมือง” นางสาวปาลิณี กล่าว
ด้าน นายลิขิต จวนสวัสดิ์ หรือ ตั้ม ฮาล้าน เน็ตไอดอล กล่าวว่า “หลังจากตนไม่ได้ทำงานที่ผับแล้วมีเวลาว่างเยอะ การปลดล็อกกัญชา กระท่อม ทำให้หาซื้อกัญชา กระท่อมได้ง่าย ตนกับเพื่อนต้มน้ำกระท่อมกินเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน กินเยอะ กินบ่อยจนกระทั้งเกิดอาการเสพติดน้ำกระท่อม ต้องต้มดื่มแทนน้ำ แต่เพียงระยะเวลาไม่นานก็เกิดผลกระทบกับสุขภาพ เกิดภาวะท้องเสียอย่างรุนแรง อาเจียนอย่างหนัก จนต้องไปพบแพทย์และถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดตรัง แพทย์ให้ยามารับประทาน ให้ดื่มน้ำสะอาดเพื่อเป็นการชะล้างพิษจากกท่อม และนัดตรวจติดตามผลอีกครั้ง สิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคนคือ การดื่มน้ำกระท่อม สูบกัญชา ไม่ทำให้ดูดีดูเท่เลย มีแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ”