สสส. กับการสร้างเสริมสุขภาพระดับประชาชน ภารกิจร่วมผลักดันมาตรการ “ภาษีลดหวาน” เพื่อสุขภาพคนไทย

ที่มา : เพจ Thaihealth Buddy
                   สสส. กับการสร้างเสริมสุขภาพระดับประชาชน ภารกิจร่วมผลักดันมาตรการ “ภาษีลดหวาน” เพื่อสุขภาพคนไทย สาเหตุของโรคที่เกิดขึ้นกับคนไทย มาจาก “พฤติกรรมการกินหวานมากเกินไป”
                   ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำรวจพบ “คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชา/วัน เกินกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด” ซึ่งมาจากรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คนไทยกินอาหารและเครื่องดื่มที่หวานเกินเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้นถึง 4 เท่า ส่งผลให้คนไทย 75% ป่วยและเสียชีวิตจากโรค NCDs เฉลี่ยวันละ 1,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี (อ้างอิงข้อมูลจาก : การคาดประมาณผลกระทบทางสุขภาพจากมาตรการขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลใประเทศไทย)
                   สสส. กับการสร้างเสริมสุขภาพระดับประชาชน รณรงค์คนไทย “ลดหวาน ลดโรค” เพื่อสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข หรือ สสส. มุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพในระดับประชาชน เพราะประชาชนเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้งานสร้างเสริมสุขภาพประสบผลสำเร็จได้ ตลอดระยะเวลา 21 ปี ร่วมกับภาคีเครือข่ายส่งต่อความรู้สร้างเสริมสุขภาพ สสส.ได้สนับสนุนให้เกิดเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เพื่อรณรงค์ให้คนไทยปรับพฤติกรรมการกิน ด้วยการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ภายใต้แนวคิด “ป้องกัน ก่อนรักษา” ตั้งแต่ระดับประชาชน ชุมชน องค์กร หน่วยงาน ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมการผลิต กระตุ้นเตือน กระตุกความคิดสังคมให้ตระหนักถึงภัยของการบริโภคหวาน ผ่านสื่อสุขภาวะสร้างสรรค์ที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่มวัย โดยในปีนี้ สสส. และเครือข่ายได้ร่วม รณรงค์ภายใต้แคมเปญ “ลดหวาน ลดโรค” สั่งหวานน้อยไม่เกิน 2 ช้อนชา เพื่อสร้างทัศนคติค่านิยมใหม่ในคนไทย ให้ลดหวานก็อร่อยได้
                   การสร้างเสริมสุขภาพในประชาชนจะสำเร็จได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่ว่า คนไทยต้องมีสุขภาพที่ดี ด้วยความตระหนักถึงปัญหานี้ สสส. สานพลัง กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ผลักดันนโยบายจัดเก็บภาษีความหวานของตั้งแต่ ปี 2560 เป็นต้นมา ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามหลักการการเก็บภาษีเพิ่ม เพื่อให้ประชาชนลดการบริโภคสินค้าที่เสี่ยงต่อสุขภาพ สนับสนุนให้ผู้ผลิตปรับสูตรเครื่องดื่มที่หวานน้อย สร้างสินค้าทางเลือกสุขภาพให้มากขึ้นและสร้างความตระหนักในเรื่องสุขภาพที่มาจากการบริโภคหวานมากเกินไป
                   จากภาษีความหวาน สู่การสร้างค่านิยมใหม่ เปิดทางเลือกสุขภาพ “หวานน้อย ก็อร่อยได้” ข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2562 พบว่า เฉลี่ยในแต่ละวัน คนไทยดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลเฉลี่ยกว่า 3 แก้ว โดยเฉพาะค่านิยมการบริโภคเครื่องดื่มชงเย็น เช่น กาแฟ ชานมไข่มุก รวมถึงน้ำแต่งรสชนิดต่าง ๆ ที่มีวัตถุดิบให้ความหวานแตกต่างกัน ยังพบอีกว่า น้ำอัดลม (ขวด) เป็นเครื่องดื่มที่คนไทยดื่มมากที่สุดในทุกปี ขณะที่ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยพบเด็กและผู้ใหญ่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานจำนวนมาก จากการบริโภคหวานเกินความจำเป็น ไม่ถูกหลักโภชนาการ
                   หลังจากที่ สสส., เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายจัดเก็บภาษีความหวาน ร่วมกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง เป็นต้นมา พบว่า พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี ตระหนักรู้ถึงโทษจากการกินหวานมากขึ้น ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวมากขึ้นให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค ออกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมารองรับกับความต้องการของตลาด ข้อมูลจากการคาดประมาณผลกระทบทางสุขภาพจากมาตรการขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลใประเทศไทย พบว่า เมื่อดำเนินมาตรการภาษีฯ จนถึงรอบที่ 4 สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ (Health care costs) โดยรวมในปี พ.ศ.2569 ได้ 18,383,836 บาท ในปี พ.ศ.2574 ได้ 95,194,007 บาท และในปี พ.ศ.2579 ได้ 121,371,070 บาท (อ้างอิงข้อมูลจาก : การคาดประมาณผลกระทบทางสุขภาพจากมาตรการขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลใประเทศไทย)
                   ตัวเลขจากกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาในภาคอุตสาหกรรมการผลิต พบว่า การปรับสูตรน้ำตาลน้อยกว่า 6 กรัมต่อลิตร เพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านลิตร เป็น 4,835 ล้านลิตร สูตรน้ำตาลมากกว่า 14 กรัมต่อลิตร ลดลงจาก 819 ล้านลิตร เป็น 9.5 ล้านลิตร พบเครื่องดื่มที่หวานน้อยในชั้นวางผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 35% ตัวเลขจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล พบว่า ปริมาณการใช้น้ำตาลในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ลดลงจาก 600 ล้านกิโลกรัมเป็น 400 ล้านกิโลกรัมโดยประมาณ
                   ทศวรรษที่ 3 ของ สสส. กับการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนในมิติสุขภาพการสนับสนุนให้คนไทยสุขภาพดีในทุกมิติ เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องราวของใครคนใดคนหนึ่ง ในทศวรรษที่สามของ สสส. ยังคงมุ่นมั่นสานพลังภาคีเครือข่ายสุขภาพ จุดประกาย กระตุ้น สานและเสริมพลัง ร่วมขับเคลื่อนและรณรงค์ให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ลดการบริโภคหวานต่อไป ด้วยการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง สื่อสารสุขภาวะผ่านสื่อสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสุขภาพของคนไทย สร้างค่านิยมใหม่ให้สังคมไทย เป็นสังคมแห่งสุขภาวะที่ดีในทุกมิติ
Shares:
QR Code :
QR Code