สวดมนต์สร้างปัญญาพัฒนาสุขภาวะ
พันธกิจแห่งการรับใช้และเลี้ยงดูฝูงแกะ “สวดภาวนาศาสนสัมพันธ์” ในโครงการสวดมนต์สร้างปัญญาพัฒนาสุขภาวะ
ต้นหูกวาง ลำต้นใหญ่กว่าสามคนโอบ ยืนต้นแผ่ใบกว้างแผ่ร่มเงา ท่ามกลางแสงแดดจ้าจากบนฟ้าด้านหน้าอาคาร “ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์” ข้างๆโบสถ์ขนาดใหญ่สวยงามทรงไทยประยุกต์ ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมจัดงานเฉลิมฉลองกันไปไม่นาน เด็กๆทั้งชายหญิงเล่นกันสนุกใต้ร่มไม้ เด็กชายบางคนปีนขึ้นไปนั่งบนค่าคบใหญ่ หัวเราะกันคิกคัก เด็กที่ตัวเล็กกว่าพยายามจะปีนตามขึ้นไป แต่ขึ้นไม่ได้ ได้แต่วิ่งเล่นไปมารอบๆโคนต้นไม้ คุณตาคุณยายเดินกันมาเป็นกลุ่มๆ บางคนก็มีลูกขับรถมาส่ง ต่างทะยอยเข้าไปในศาลา
เมื่อช่วงสายของวันที่ 4 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่วัดพระวิสุทธิวงศ์ บ้านโพนสูง ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานีสังฆมณฑลอุดรธานี คณะทำงานโครงการสวดภาวนาคาทอลิกไทย ภายใต้โครงการสวดมนต์สร้างปัญญาพัฒนาสุขภาวะ โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาวะ(สสส.) โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์สังคมพัฒนา สังฆมณฑลอุดรธานี คุณนิราศ ศิริชัย และคุณวชิระ ชำนาญฤทธิ์ ได้ร่วมกับกลุ่มแกนนำคริสตชนคาทอลิกวัดพระวิสุทธิวงศ์ บ้านโพนสูง อาจารย์วราภรณ์และกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มยุวธรรมฑูตและเยาวชน รวมเกือบ 100 คน ได้จัดเวทีประชุมโฮมฮักมักแพง (เวทีประชาคมเบื้องต้น) ซึ่งเป็นการประชุมประชาคมเพื่อกำหนดแผนงานและกิจกรรม เพื่อแต่งตั้งคณะทำงานและออกแบบการทำกิจกรรมในโครงการสวดภาวนาคาทอลิกไทย ณ ศาลาอเนกประสงค์ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
โอกาสนี้ คุณเอ นพรัตน์ คณะทำงานโครงการสวดฯ จากฝ่ายบริหารและพัฒนาโครงการภายในประเทศ คาริตัสไทยแลนด์ ร่วมกับ ภาคีและกัลยาณมิตร ผู้อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนและดำเนินโครงการฯได้ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
การประชุมเริ่มต้นด้วยการให้ผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ แกนนำหมู่บ้านและเยาวชนพูดคุยทักทาย เล่าเรื่องราวความเป็นมาของชุมชนและวัด พร้อมกับกิจกรรมสวดภาวนาที่ผ่านของวัด จากนั้น อาจารย์วราภรณ์ได้เกริ่นนำถึงคุณค่า ความหมายและประโยชน์ของการสวดภาวนา แบบคาทอลิก โดยเฉพาะในชุมชนคาทอลิก
หลังจากเล่าเรื่องราว ความเป็นมาและเหตุผลที่เลือกบ้านโพนสูงเป็นพื้นที่ทำกิจกรรม ผู้เข้าร่วมประชุมได้ร่วมกันคัดเลือกคณะทำงานโครงการในระดับชุมชนวัด จำนวน 12 คน พร้อมทั้งแกนนำยุวธรรมฑูตและแกนนำเยาวชน ให้เข้าร่วมเป็นคณะทำงานหลักของโครงการฯ ประกอบด้วยผู้หญิง 9 คน ผู้ชาย 3 คน
คณะทำงานทั้งหมด ได้กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุม จากนั้นเป็นการแสดงการละเล่นวงดนตรีพื้นบ้านด้วยเครื่องดนตรีฝีมือของกลุ่มคริสตชนผู้สูงอายุทำเอง ตามด้วยการขับร้องเพลงหมอลำ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตการประกาศศาสนาของพระเยซูของอาสาสมัครหมอลำคาทอลิก
จากนั้น เป็นการระดมความคิด เห็นในการทำโครงการ แต่ละคนได้เสนอแนวคิดและจุดไอเดียใหม่ ๆ พร้อมกับย้ำถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จากการส่งเสริมให้เกิดการสวดภาวนาในชุมชนวัดแห่งนี้ เพื่อเป็น “วัดนำร่อง” ของสังฆมณฑลอุดรธานี ที่จะทำให้คริสตชน 3,000 กว่าคนสัมผัสความสุขที่จะเกิดขึ้นจากการสวดภาวนาและกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการฯ
นายเอ นพรัตน์ ฝ่ายบริหารและพัฒนาโครงการภายในประเทศ คาริตัสไทยแลนด์ ในฐานะคณะทำงานโครงการสวดภาวนาคาทอลิกไทย กล่าวว่า การประชุมโครงการฯวันนี้ ได้กลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ได้ความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ร่วมจุดไอเดียชาวบ้านในการค้นหารูปแบบการภาวนาใหม่ๆ ยังได้หารือกับแกนนำ "กลุ่มผู้สูงอายุ" ซึ่งมอบของฝาก คือ ข้อเสนอโครงการเพื่อหารือในการหนุนเสริมความเข้มแข็งของกลุ่มผู้สูงอายุและชุมชนวัด พร้อมทั้งยังได้เข้าเยี่ยมคารวะ แนะนำตัว แนะนำหน่วยงานคาริตัสไทยแลนด์แก่ผู้บริหาร คุณพ่อเจ้าอาวาส และอุปสังฆราชของสังฆมณฑลอุดรธานี เพื่อให้ท่านรับรู้และให้ความร่วมมือที่มากขึ้นในอนาคต ที่สำคัญคือ เราได้ "เพื่อนภาคี" ที่เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรม ประเพณี และคุณค่าของศาสนาคริสต์ สามารถนำสิ่งดี ๆ ของชาวคริสต์ ไปสื่อสารบอกต่อกับชาวพุทธ และทุกศาสนา ทุกภาคีที่เขาทำงานด้วยต่อไป เสร็จการประชุม ทุกคนได้ร่วมกันถ่ายภาพและรับประทานอาหาร ด้วยรอยยิ้มและความสุข
ตลอดกิจกรรมนั้น เป็นที่น่าประทับใจว่า เด็ก ๆจากกลุ่มยุวธรรมฑูตและเยาวชนที่นำโดยอาจารย์วราภรณ์ พี่เลี้ยงและแกนนำคาริตัสระดับวัด ได้ให้บริการและอำนวยความสะดวก ทั้งการลงทะเบียน การเสิร์ฟน้ำ เครื่องดื่ม อาหาร ตลอดจนการจัดเก็บสถานที่ ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรม "จิตอาสาในวันหยุดที่น่าประทับใจยิ่ง"
ปิดท้ายด้วยการถ่ายทำวิดีทัศน์สัมภาษณ์แกนนำและผู้มีบทบาทของกิจกรรมในชุมชนแห่งนี้ เพื่อนำเผยแพร่สู่สาธารณะทั้งในสื่อมวลชนคาทอลิกและสื่อช่องทางต่าง ๆ เพื่อการรับรู้และขยายผลต่อไป
ในโอกาสนี้ คณะทำงานยังได้หารือระหว่างคาริตัสไทยแลนด์และแกนนำคาริตัสระดับวัด เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการจัดทำโครงการและ กิจกรรมเพื่อพัฒนากลุ่มผู้สูงอายุ และมเสริมสร้างความศรัทธาในชุมชนวัดในโอกาสต่อไปกอนกลับได้เข้าคำนับพร้อมทั้งฝากโครงการไว้กับคุณพ่อเจ้าอาวาส ซึ่งให้การต้อนรับด้วยมิตรไมตรี และพร้อมหนุนเสริมให้ชุมชนวัดแห่งนี้ เป็นวัดนำร่องแห่งความสุขที่สัมผัสได้จริง จากการสวดภาวนาของคริสตชนในชุมชนแห่งนี้ ที่จะขยายผลสู่ทุกชุมชนวัดในสังฆมณฑลอุดรธานี และทุกชุมชนวัดคาทอลิกในประเทศไทยต่อไป
มันคือ "ความสุข" วลีแห่งความหวังและศรัทธาในพระเยซูเจ้า ที่จะดลบันดาลใจหัวใจผู้สวดภาวนาได้เกิดสันติสุขภายพร้อมสละเวลาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ไปชักชวนเพื่อนบ้านรวมตัวทำกิจกรรมสร้างสุข ภายใต้ร่มเงาชมรมผู้สูงอายุคาทอลิกวัดพระวิสุทธิวงศ์บ้านโพนสูง
เสียงระฆังดังระรัวจากแรงดึงเชือกเคาะระฆังในเวลาเที่ยง เป็นเหมือนเสียงแห่งนิมิตหมายของการเริ่มต้นและขยายตัวการสวดภาวนา ที่จะกระจายตัวไปในหมู่บ้านและสังฆมณฑลอย่างไม่มีวันหยุด
ที่มา: ทีมจิตอาสาคณะทำงานโครงการสวดภาวนาคาทอลิกไทย