สวดมนต์ข้ามปี ใครว่ามีแต่ผู้ใหญ่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่บางกลุ่ม ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ว่ามีความประพฤติในทางที่ไม่ดีนัก ฉลองปีใหม่ (ไทย) อย่างไร้สติ และผิดวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศชาตินั้น
ภาพในงานของการสวดมนต์ข้ามปีฯ ครั้งที่ 3 และข้อมูลจากหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ระบุว่า ปีนี้มีวัยรุ่นและวัยทำงานกว่าร้อยละ 80 ร่วมงานสวดมนต์ข้ามปี ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันดีในนามของ ‘วัดภูเขาทอง’ น่าจะเป็นภาพที่ชวนให้ผู้ใหญ่เบาใจได้ว่า สังคมไทยยังมีเด็กและคนรุ่นใหม่อีกกลุ่มหนึ่งที่รู้จักเลือกทำประโยชน์ให้แก่ชีวิตตน
เหมือนอย่างกลุ่มของ บี-ปรารถนา ใจแก้วม้า, ออม-วลัยพรรณ แก้วยา และ กิ๊ฟ-ปุณณภา ปงก๋าวงศ์ สามสาววัย 24 ปี จากจังหวัดลำปาง ที่มาร่วมสวดมนต์ข้ามปี ณ ท้องสนามหลวง
ทั้งสามสาวให้เหตุผลที่มาสวดมนต์ข้ามปีว่า ปีนี้ไม่ได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด จึงชวนกันมาร่วมทำบุญปีใหม่เพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต พร้อมทั้งตั้งใจว่าจะอยู่จนเสร็จพิธี และร่วมทำบุญตักบาตรในเช้าวันรุ่นขึ้น 1 มกราคม 2556 ด้วยกัน
“เรามาทำความดี ก็น่าจะได้สิ่งดีๆ ตามมา” สาวออมกล่าว เธอเล่าให้ฟังว่า ปกติเป็นคนสวดมนต์ทุกวันอยู่แล้ว เพราะช่วยให้จิตใจสงบ ส่วนตัวจึงมีความเชื่อว่า การมาเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการสวดมนต์ข้ามปี น่าจะนำสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
สำหรับบี เธอเชื่อในเรื่องของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำอย่างไร ย่อมได้อย่างนั้น ศรัทธานี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้จริง “ปกติบีมักจะสวดมนต์ก่อนนอน เพราะเป็นการทำความดีเล็กๆ ที่ทำได้ทุกวัน ช่วยให้ชีวิตไม่ฟุ้งซ่าน เรียกว่าไหว้พระเมื่อไร ไม่เคยเลยที่จะฝันร้าย” เธอกล่าว
ด้าน สาวกิ๊ฟ สาวสวยคนสุดท้ายของกลุ่ม ให้ความเห็นถึงการเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีว่า “เป็นการเริ่มต้นการทำความดีในปีใหม่ที่ดี เหมือนกับการเริ่มต้นดี ก็ช่วยให้เรามีความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ส่วนที่เหลือ ถ้าอยากให้ดีไปตลอด ก็อยู่ที่การกระทำของตัวเองในระหว่างทางด้วย ต้องหมั่นทำดีไปเรื่อยๆ ถึงจะมีปลายทางที่ดีได้”
มากันที่ ด.ญ.สกาว สุวรรณพรหม อายุ 8 ขวบ ที่มาพร้อมกับ อุไร – สุกานดา สุวรรณพรหม คุณยายและคุณแม่ ผู้ปกครองที่พาน้องสกาวมาร่วมงานสวดมนต์ข้ามปีเป็นปีแรก
“หนูมาเพราะยังไม่เคยมาค่ะ เลยอยากมาลองดูว่าเป็นอย่างไร แต่ปกติอยู่บ้านก็มีสวดมนต์บ้างเหมือนกัน” สาวน้อยกล่าวเจื้อยแจ้ว ก่อนจะเล่าให้ฟังต่อว่า มาเดินดูกิจกรรมและสักการะพระพุทธรูปตั้งแต่เที่ยง เสร็จแล้วจึงมาจับจองหาที่นั่งร่มๆ เพื่อร่วมกิจกรรมในช่วงค่ำ
เมื่อถามต่อว่า ข้อดีของการสวดมนต์ที่มีแก่ตัวน้องสกาวมีอะไรบ้าง เด็กน้อยตอบทันทีว่า “น่าจะทำให้หนูเรียนดี” เพราะผลการเรียนที่ผ่านมา เธอได้คะแนนรวมทุกวิชาถึงร้อยละ 83 ทีเดียว
อีกฟากหนึ่งของเวที ดวงใจ หวังดี และ สุรศักดิ์ รสจันทร์ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองของ ด.ช. ปชัญญะ รสจันทร์ วัย 4 ขวบ ก็มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
“อยากให้ยายหายป่วย” คือเหตุผลที่เด็กชายมาร่วมงานสวดมนต์ เมื่อถามต่อว่าปีที่แล้วทำอะไร เขาเงยหน้ามองคุณแม่อย่างหาตัวช่วย ก่อนจะให้คุณแม่ตอบแทนว่า “พากันไปใส่บาตร”
โดยดวงใจเชื่อว่า การปลูกฝังสิ่งที่ดีงามให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กนั้น จะทำให้ลูกเติบโตขึ้นไปเป็นคนดี จิตใจอ่อนโยน รู้จักแยกแยะว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
“พอเขาเริ่มจะรู้ความ ก็สอนเขาสวดมนต์ หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องรู้จักกราบพระ 3 ครั้งก่อนนอน บอกกับเขาว่า การสวดมนต์จะช่วยให้ลูกหลับฝันดี เวลาว่างๆ ก็จะอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับบาปบุญคุณโทษว่า ถ้าทำบาป จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไร ถ้าผิดศีลข้อหนึ่ง จะเป็นแบบไหน เพราะฉะนั้นอย่าทำร้ายสัตว์นะ”
ภายหลังพิธีฯ จบลงเมื่อเวลา 01.30 น. สีหน้าของแต่ละคนที่ตั้งใจมาทำความดีเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตนั้น จึงเปี่ยมสุข…
เรื่องโดย ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content www.thaihealth.or.th