สวดมนต์ข้ามปี วิถีพุทธ ร้อยใจไทย ด้วยแสงธรรม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แฟ้มภาพ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับมหาเถรสมาคม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดสวดมนต์ข้ามปี วิถีพุทธ ร้อยใจไทย ด้วยแสงธรรม
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า มหาเถรฯ มีมติให้ทุกวัดทั่วโลกจัดกิจกรรม ดังกล่าวในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 และให้มีพิธีทำบุญตักบาตร ในวันที่ 1 มกราคม 2561 โดยส่วนกลางมีพุทธมณฑลเป็นศูนย์กลาง ร่วมกับ 11 วัดนำร่อง คือ 1.วัดราชบพิธฯ 2.วัดไตรมิตรฯ 3.วัดเทพ ศิรินทร์ 4.วัดพิชยญาติการาม 5.วัดประยุรวงศาวาส 6.วัดสามพระยา 7.วัดยานนาวา 8.วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก 9.วัดคลองเตยใน 10.วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ 11.วัดสระเกศ ส่วนภูมิภาค ให้คณะสงฆ์ร่วมกับส่วนราชการกำหนดวัดศูนย์กลางตามความเหมาะสม ทั้งสำนักพุทธฯ ยังได้ตั้งศูนย์ประสานงาน โทร.0-2441-7998 พร้อมทั้งเตรียมโปสการ์ดคำอำนวยพรปีใหม่จากสมเด็จพระสังฆราช แจกแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย
พ.ต.ท.พงศ์พร กล่าวต่อว่า การจัดสวดมนต์ข้ามปีแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1.เวลา 18.00-20.00 น. พิธีเจริญจิตตภาวนา 2.เวลา 20.30-22.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และช่วงที่ 3.เวลา 22.30-01.00 น. พิธีมหามงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในส่วนภูมิภาคให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ร่วมกับคณะสงฆ์และส่วนราชการในจังหวัดจัดกิจกรรมสวดมนต์และเจริญจิตตภาวนาข้ามปี ตามความเหมาะสม และในต่างประเทศให้วัดไทย หรือพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศ จัดกิจกรรมสวดมนต์และเจริญจิตตภาวนา ตามความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและช่วงเวลาวันขึ้นปีใหม่ของแต่ละประเทศ
พระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรฯ ในฐานะโฆษกมหาเถรฯ กล่าวว่า บทสวดที่ใช้ในการสวดมนต์ข้ามปีนั้น จะเป็นบทพระปริตร ซึ่งอานิสงส์ของการสวดบทพระปริตร คือ เป็นคาถาป้องกันอันตราย ป้องกันเนริยภัย (ภัยจากนรก) โจรภัย และป้องกันเหตุเภทภัยชั่วร้ายต่างๆ ทั้ง 9 ประการ และการสวดมนต์ยังมีอานิสงส์อีกถึง 10 ประการ คือ 1.ก่อให้เกิดความรู้สึกนึกคิดที่เปี่ยมล้นด้วยพลังแห่งความดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง 2.ช่วยคลายความเครียด 3.ทำให้จิตใจสงบ ลดความเร่าร้อนทางอารมณ์โทสะ โมหะ อิจฉาริษยา 4.ทำให้หลับสบาย ตื่นก็เป็นสุข 5.ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร 6.การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 7.เกิดความคิดสร้างสรรค์ 8.เป็นที่รักและเป็นที่เมตตาทั้งของเทวดา และมนุษย์ 9.ครอบครัวมีความสุข เพราะรู้จักยับยั้งชั่งใจ 10.มีสติ รู้ผิดชอบ ชั่ว ดี มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งหากทุกคนพร้อมใจกันสวดมนต์ ย่อมส่งผลให้สังคม ประเทศชาติ สงบสุขได้อย่างแน่นอน
ด้าน ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ทราบว่าเริ่มตั้งแต่ปี 2544 มาจนถึงวันนี้ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของสังคมชาวพุทธไทย ด้วยกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ที่สำคัญ หลายปีที่ผ่านมาแลนด์มาร์กของปีใหม่จะอยู่ที่วัดอรุณราชวราราม จนแทบกลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวพุทธไทยรวมถึงชาวพุทธโลกด้วย
ในมุมของ สสส.มองว่า การดื่มเฉลิมฉลอง มีผลต่อสุขภาพของคนไทยไม่น้อย และอุบัติเหตุจากการเดินทางเราก็ยังมี 7 วันอันตราย ถ้าดูจากสถิติการตายในเทศกาลนี้ ก็ยิ่งกว่าสงครามกลางเมือง การมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีนอกจากจะมีประโยชน์ด้านสุขภาพ ยังมีผลเชิงสุขภาพของสังคมอีกด้วย ดังนั้นทางเลือกใหม่นี้จะทำให้มีสติ เกิดการทบทวนถึงพฤติกรรมที่ผ่านมา และมีการตั้งจุดหมายที่ดีในปีใหม่
ทั้งนี้ สสส.ร่วมผลักดัน ส่งเสริมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีตลอดมา สำหรับในปี 2560 สสส.ร่วมกับองค์กรเครือข่ายงดเหล้า ได้จัดทำใบลงนามตั้งสัจจะอธิษฐานบำเพ็ญบารมีจำนวน 300,000 ใบ เพื่อแจกจ่ายไปยังเครือข่ายต่างๆ และจ่ายไปยังวัด 999 วัด ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ตั้งใจกระทำความดีในปีใหม่นี้ร่วมกันด้วย