สลด! นร.หญิงทำแท้งเองเสียชีวิต

จ่อฟันเว็บขายยาช่วยรีดลูก!

 

 สลด! นร.หญิงทำแท้งเองเสียชีวิต

          ประธานชมรมพนักงานสอบสวน ย้ำน่าเศร้าสลดใจ เกิดความเสื่อมโทรมด้านคุณธรรม จริยธรรม นักเรียนหญิงทำแท้งลูกเสียชีวิต ชี้ ทำแท้งให้ตนเองเป็นความผิดอาญา แม้เป็นนักเรียนต้องถูกดำเนินคดีตาม กม. เมื่อแพทย์ให้ออกจาก รพ. พนักงานสอบสวนต้องส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กต่อไป หากสอบพบมีพยานหลักฐานว่ามีผู้ช่วยเหลือจำหน่ายตัวยา – เครื่องมือทำแท้ง ถือเป็นความผิดฐานสนับสนุนเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ยา

 

          วันนี้ (14 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย ประธานชมรมพนักงานสอบสวน เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุนักเรียน ม.6 ใช้ยาสอดทำแท้งและตกเลือด ว่าถือเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง นอกจากการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายแล้ว ด้านความเสียหายต่อสังคมไทยที่มากกว่านั้นคือความเสื่อมโทรมเรื่องจริยธรรม คุณธรรมที่เกิดขึ้นกับเด็กเยาวชนไทยวัยศึกษาเล่าเรียน

 

          ดังนั้น ทุกภาคส่วนของสังคมทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันทุกวิถีทาง เพื่อป้องกันมิให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น และเชื่อว่ามีการกระทำเช่นนี้มากพอสมควรแต่ไม่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชน

 

          พ.ต.ท.มานะ ชี้ให้เห็นว่า ในทางกฎหมายนั้นการทำแท้ง (abortion) เป็นความผิดทางอาญา โดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 บัญญัติว่า “หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ส่วนผู้ใดก็ตามที่ทำให้หญิงแท้งลูก กฎหมายจะลงโทษสถานหนัก โดยมาตรา 302 วรรคแรก บัญญัติว่า “ผู้ใดทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

 

          อย่างไรก็ตาม กรณีหากเป็นการทำให้หญิงแท้งลูกโดยหญิงนั้นไม่ยินยอม ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษหนักขึ้นคือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หากเป็นการทำแท้งโดยแพทย์เนื่องจากจำเป็นต้องกระทำเพราะสุขภาพของหญิงนั้น หรือการมีครรภ์เกิดจากการข่มขืนกระทำชำเรา กฎหมายไม่เอาผิดในการทำแท้งในกรณีนี้

 

          พ.ต.ท.มานะ กล่าวอีกว่า กรณีที่เกิดขึ้นทราบมาว่าเป็นการที่หญิงทำแท้งตนเองจนทารกออกมาเสียชีวิต จึงถือเป็นความผิดสำเร็จแล้วตามมาตรา 301 แม้ผู้กระทำเป็นนักเรียนก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อแพทย์อนุญาตให้นักเรียนหญิงดังกล่าวออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว พนักงานสอบสวนต้องส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กต่อไป ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวฯ พ.ศ. 2534

 

          ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องทำการแจ้งข้อหาสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพก่อนส่งตัวไปสถานพินิจฯ หากทางการสอบสวนมีพยานหลักฐานฟังได้ว่ามีผู้สนับสนุนการกระทำผิด เช่น ช่วยเหลือโดยการจำหน่ายตัวยา เครื่องมือในการทำแท้ง ก็เป็นความผิดฐานสนับสนุนต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของความผิดนั้น และอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ยา เป็นต้น

 

          ประธานชมรมพนักงานสอบสวน กล่าวอีกว่า สถาบันครอบครัวและโรงเรียน สถานศึกษามีความสำคัญอย่ายิ่งที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องเศร้าสลดเช่นนี้เกิดขึ้น ต้องคอยสอดส่อง เอาใจใส่ความประพฤติของเด็กหรือเยาวชน แนะนำเรื่องเพศศึกษา คุณธรรม จริยธรรม อย่าให้มีค่านิยมฟุ้งเฟ้อ ลุ่มหลงวัตถุนิยม หรือวัฒนธรรมตะวันตกบางอย่างที่ไม่เหมาะกับสังคมไทย และเด็กเยาวชนต้องมีวินัยตนเอง กตัญญูรู้คุณบิดามารดา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเกราะคุ้มกันไม่ให้ประพฤติในทางเสื่อมเสียได้

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์astv ผู้จัดการ

 

 

update : 14-10-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code