สร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อสังคมสุขภาวะ

ความรู้หลายสิ่งหลายอย่างในแวดวงของ เทคโนโลยีปัจจุบัน มีความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากการที่มนุษย์ สามารถนำเทคโนโลยีมาพัฒนาและสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพที่ดีได้เป็นอย่างดี


สร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อสังคมสุขภาวะ thaihealth


สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบเทคโนโลยีรายใหม่ จัดงาน Digital Wellness Forum หรือการประชุมเพื่อสุขภาวะดิจิตอลขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ อย่างยั่งยืน โดยมี องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง


นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผอ.สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส.บอกถึงความสำคัญของเทคโนโลยีกับการส่งเสริมสุขภาพว่า สสส. เป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านการสร้างเสริมสุขภาวะแก่คนไทย ผ่านทางเครื่องมือต่างๆ ภายใต้เป้าหมายสำคัญ นั่นคือ การส่งเสริมให้คนไทยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างได้ ปัจจุบันนี้ มีเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย ที่สามารถนำมาใช้ เป็นช่องทางการเข้าถึงข้อมูลสุขภาวะแก่ประชาชน อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเลต ผ่านโปรแกรมที่เรียกว่าแอพพลิเคชั่น ซึ่ง สสส. ได้พัฒนาแอพเพื่อสุขภาวะขึ้นหลากหลายแอพ สามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีทั้งในระบบ iOs และ Android ไม่ว่าจะเป็น FoodiEat โปรแกรมช่วยคำนวณแคลอรีที่ร่างกายได้รับในแต่ละวัน กับคำแนะนำกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม Plan money แอพวางแผนการเงิน Bike route แนะเส้นทางปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ Snap'n bite ช่วยลดน้ำหนัก และ DoctorMe แนะนำวิธีเยียวยาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ซึ่ง การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ ก็เพื่อสร้างเทรนด์สุขภาพและสังคมสุขภาวะในยุคดิจิตอล นั่นเอง


นพ.ชาญวิทย์ ยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ ว่า การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างสังคมสุขภาวะสามารถดูจากกรณีศึกษาการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่น ที่มีโครงการใหญ่เพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลด้านสุขภาพทุกอย่างของผู้ใช้งาน เพื่อนำข้อมูลมานั้นมาใช้เป็นตัวช่วยวางแผนการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ เช่น การคำนวณโอกาสตั้งครรภ์ของคุณแม่โดยสร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อสังคมสุขภาวะ thaihealthอ้างอิงจากข้อมูลประจำเดือน หรือการส่งข้อมูลการกินของสามีในแต่ละมื้อไปให้ภรรยาที่บ้านเพื่อจะได้เตรียมอาหารเย็นได้อย่างเหมาะสม ขณะที่ประเทศไทยนั้น ก็มีการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินในด้านข้อมูลเช่นกัน แต่ยังจัดการได้ไม่ดีเท่าที่ควรในอนาคตจึงอยากให้มีการเก็บข้อมูลด้านต่างๆกับกลุ่มตัวอย่างคนไทยแบบติดตามประมาณ 1,000 คน ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจและสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น


คุณไกลก้อง ไวทยการ รอง ผอ.สถาบันเช้นจ์ฟิวชั่น แนะนำ Digital Wellness Community ว่าเป็นการรวมบุคคลด้านสุขภาพกับด้านเทคโนโลยี เพื่อมาสร้างสรรค์พัฒนานวัตกรรมสุขภาวะ ซึ่ง Digital Wellness Community คือ community สำหรับผู้ที่อยากพัฒนาวงการนวัตกรรมสุขภาวะโดยจะนำความเป็นเทคโนโลยีดิจิตอลที่ไม่ว่าจะเป็น mobile, /data science, social media และอื่นๆ มารวมกับ Wellness(สุขภาวะ) ใช้แทนคำว่า Health ซึ่งจะโฟกัสแค่สุขภาพอย่างเดียว โดย Wellness ประกอบด้วยการพัฒนากาย ใจ ปัญญา และสังคมให้ดียิ่งขึ้นโดย Digital Wellness Community นี้ จะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจ ได้เข้ามามี ส่วนร่วมในการช่วยแชร์ข้อมูล ช่วยลงมือทำกิจกรรมที่ตนเองถนัด ไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถลงชื่อได้ที่ http://bit.ly/join-dwc


คุณไกลก้องบอกด้วยว่า เทคโนโลยีจะช่วยลดปัญหาของสังคมได้ แต่นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นต้องสามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับหน่วยงานด้านสุขภาพจากภาครัฐได้ด้วย และเพื่อการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ตรงกับความต้องการยิ่งขึ้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้การแก้ปัญหาประเด็นสุขภาพของคนไทยเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง


ขณะที่ คุณฉฐมณฑน์ พลดุล ผอ.สมาคม Tech Startup แสดงทัศนะในมุมของการสร้างผู้ประกอบการ แอพพลิเคชั่นด้านสุขภาพว่าผู้ประกอบการในแวดวงนี้กว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ล้มเหลวทางธุรกิจ ดังนั้นจึงเกิดความคิดว่า เราจะทำอย่างไรที่จะช่วยให้พวกเขาเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองว่า เหมาะที่จะเป็นผู้ประกอบการหรือไม่ อีกทั้งช่วยสร้างศักยภาพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิมได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาทดลอง


และ คุณฉฐมณฑน์ บอกทิ้งท้าย ว่า ขณะเดียวกัน ผู้ที่รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับทักษะด้านนั้นๆ ก็สามารถค้นหาตัวเอง และสร้างศักยภาพของตน เพื่อเป็นนักพัฒนาในองค์กรแทนได้ ดังนั้น จึงอยากให้เกิดแวดวงเสวนาในทำนองนี้เพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาสู่การเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น หรือเป็นผู้ประกอบการต่อไปได้ในอนาคตต่อไป


จงจำเอาไว้ว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้าน สุขภาพนั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่สมควรได้รับการสนับสนุนให้เกิดการคิดค้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วย สร้างเสริมสุขภาวะของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไปอย่างยั่งยืน


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

Shares:
QR Code :
QR Code