สร้างคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงาน
เปิดรับสมัคร 30 บริษัท เข้าร่วมโครงการ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงานและครอบครัว
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน “สร้างงานดี ชีวีมีสุข ด้วยนมแม่” ภายใต้โครงการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงานและครอบครัว กำลังเปิดรับสมัคร หน่วยงาน 30 แห่ง เข้าร่วมโครงการพัฒนามุมนมแม่ในองค์กร ตั้งเป้าหมายเพิ่มผลผลิตภาคธุรกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานในองค์กร
ตามที่กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำว่า “เด็กทุกคนควรได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว เป็นระยะเวลา 6 เดือน และให้นมแม่ร่วมกับอาหารตามวัยที่เหมาะสมนาน 2 ปี และมีนโยบายการดำเนินงานในการส่งเสริม สนับสนุนและปกป้องมารดาและทารกในเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่”
พญ.ยุพยง แห่งเชาวนิช เลขาธิการศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่างาน “หน่วยงานที่เข้าร่วม สร้างเสริมคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงานและครอบครัว จะได้รับความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการ ประโยชน์ที่ได้รับจะได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับองค์กรต้นแบบในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสถานที่ทำงาน อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงานและครอบครัว โดยมีกิจกรรม ดังนี้”
กิจกรรมที่ 1 การกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเกิดเครือข่ายการปฏิบัติการร่วมกันในกลุ่มสถานประกอบกิจการ โดยดำเนินการจัดอบรมวิทยากร (Trainer and Facilitator)
กิจกรรมที่ 2 สร้างต้นแบบ “ศูนย์สร้างเสริมคุณภาพชีวิตวัยทำงานและครอบครัว” ในสถานประกอบกิจการ ดำเนินการจัดอบรมทักษะในเรื่อง Work skills และ Life skills เพื่อให้มีความรู้และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการดูแลตนเองและครอบครัว ตลอดจนเพื่อนร่วมงานและนำไปสู่การสร้างต้นแบบ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตสตรีวัยทำงานและครอบครัว
กิจกรรมที่ 3 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเกิดการสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการจัดประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้แทนพนักงานจากสถานประกอบกิจการต่างๆ กำหนดการจัด ครั้งที่ 1 วันที่ 3 – 4 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง “ทัศนคติกับการสร้างทีมและความรู้นมแม่” ครั้งที่ 2 วันที่ 24 – 25 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง “ภาวะผู้นำกับการสื่อสารและความรู้นมแม่” ครั้งที่ 3 วันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2557 เรื่อง “การสร้างแรงจูงใจกับวิธีคิดและความรู้นมแม่”
ที่มา: มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย