สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย จัดเทศกาลมหาพรต ขับเคลื่อนสังคม ปกป้องเยาวชนไทย ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง

ที่มา: สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย

                    ชาวคริสต์รณรงค์ถือศีล 40 วัน “มหาพรตงดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติด”

                    14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรักของมนุษย์โลก ขณะเดียวกันในปีนี้ก็ตรงกับวันพุธรับเถ้า (Ash Wednesday) ถือเป็นวันของการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและเป็นวันเริ่มต้นของ “เทศกาลมหาพรต” จนถึง 28 มีนาคม 2567 รวมเวลา 40 วัน หรือเป็นช่วงเวลาถือศีลของชาวคริสต์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขของคริสตศาสนิกชน ได้ให้ข้อคิดแก่คริสตชนให้เข้าสู่เทศกาลด้วยความเข้าใจพลังแห่งความรักที่พระเจ้าทรงใช้ในการหล่อหลอมประชากรของพระองค์ เสียงเรียกร้องสู่อิสรภาพ เป็นเสียงเรียกร้องที่ต้องอาศัยความพยายามในการปลดพันธนาการแห่งการกดขี่และเดินทางไปด้วยกัน พระองค์ตรัสว่า เราตระหนักถึงความจริงในช่วงเวลาที่เรารู้สึกสิ้นหวัง มหาพรตคือเทศกาลแห่งพระหรรษทาน ให้เราปลดปล่อยสู่อิสรภาพ พระองค์ปรารถนาที่จะเปิดตาของเราให้กว้างเพื่อรับรู้ความจริง และต่อต้านกระแสเฉยเมยทั่วโลก การตระหนักถึงการพัฒนาที่แบ่งแยกและพรากอนาคตของเรา แม้แต่วิญญาณของเราก็เช่นกัน ที่ถูกทำให้เราสูญเสียอิสรภาพ โลกใบนี้ กำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กดขี่ทุกสิ่งเพื่อประโยชน์ของตนเอง ดังนั้นเทศกาลมหาพรตนี้เป็นเทศกาลแห่งการกลับใจ และการลงมือทำเพื่ออิสรภาพ ด้วยการภาวนา การทำทาน และการถือศีลอด ซึ่งไม่ใช่กิจกรรมที่แยกจากกัน แต่เป็นการเคลื่อนไหวอันเดียวกันของการเปิดใจ ละทิ้งตัวตน มหาพรตยังเป็นช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจร่วมกัน การตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการตัดสินใจใหญ่ๆ ที่ทวนกระแส ผลักดันให้วิถีชีวิตของปัจเจกบุคคลและชุมชนเปลี่ยนแปลง พ่อขอเชิญชวนชุมชนคริสต์ทุกแห่ง ให้จัดช่วงเวลาพิเศษนี้ได้ทบทวนวิถีชีวิต ตรวจสอบบทบาทของตัวเองในสังคม และการมีส่วนร่วมเพื่อให้สังคมดีขึ้น สัมผัสถึงความรักที่สร้างสิ่งใหม่ทั้งหมด เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และกับคนที่อยู่ใกล้ชิด พระองค์เชื่อว่าเราทุกคนในชุมชนคริสต์สามารถทำได้

                    พระสังฆราชฟิลิป บรรจง ไชยรา ประธานกรรมาธิการฝ่ายสังคม (คาริตัสไทยแลนด์) ได้ส่งสาส์นถึงคริสตชนไทยว่า “เทศกาลมหาพรตสำหรับคริสตชนชาวไทยถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่ต้องปรับเปลี่ยนชีวิตเพื่อเดินตามพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปา มหาพรตเป็นช่วงเวลาที่เราลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดี ขอให้เราไตร่ตรองชีวิตของเราและใช้โอกาสนี้ “จงฟัง” และ “ลุกขึ้น” เปลี่ยนสภาพใหม่ ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากการอดเนื้อ อดอาหาร สวดภาวนา ทำกิจใช้โทษ ที่เราพึงปฏิบัติในเทศกาลมหาพรตนี้อยู่แล้ว พ่อขอเชิญชวนเรา ให้ลดละเลิกเหล้าบุหรี่ อันเป็นสิ่งเสพติดใกล้ตัวเรา ให้เราปลดตัวเองออกจากการเป็นทาสของสิ่งเสพติดและอบายมุขเหล่านี้ และให้การลดละบาปเหล่านี้นำไปสู่การอดออมและการแบ่งปันเพื่อผู้ยากไร้”

                    บาทหลวงเอกรัตน์ หอมประทุม  เลขาธิการสภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ผู้นำการขับเคลื่อนโรงเรียนคาทอลิก ให้เป็นโรงเรียนปลอดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อให้นักเรียนดำเนินชีวิตในหนทางของความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่น สร้างสันติสุขในสังคมไทย มีจิตอาสาและเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคม โรงเรียนคาทอลิกตระหนักดีถึงภาวการณ์ปัจจุบันที่เด็กเยาวชนถูกคุกคามอย่างแยบยลจากบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งเป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง เทศกาลมหาพรตนี้ จึงตอกย้ำภารกิจที่จะก้าวไปด้วยกันและการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างกล้าหาญในการดูแลและปกป้องเด็กเยาวชนอย่างจริงจังจากบุหรี่ไฟฟ้าและสิ่งเสพติด ดังนั้น สภาการศึกษาคาทอลิกสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมป้องกันและควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กนักเรียนและโรงเรียนอย่างจริงจัง ขอให้โรงเรียนคาทอลิกพยายามที่จะทำความเข้าใจและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อช่วยเหลือเด็กเยาวชน ชุมชนและสังคม และปลดปล่อยจากพันธนาการสู่อิสรภาพตามพระดำรัสของพระสันตะปาปา พลังของโรงเรียนคาทอลิกจะมีส่วนสรรค์สร้างสังคมไทยให้เป็นอาณาจักรสวรรค์บนแผ่นดิน

                    ซิสเตอร์นิภาพันธ์ แสงประดับ ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ขานรับในการดำเนินการของสภาการศึกษาคาทอลิกไทย ร่วมขับเคลื่อนงานป้องกันควบคุมบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ในสังคมไทย โดยทางโรงเรียนได้จัดโครงการ “มหาพรต อดบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อลูกหลาน” ในฐานะที่ทำหน้าที่ดูแลโรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ มองงานอภิบาลที่ควรต้องทำภารกิจนี้เพื่อเด็กๆ ผู้ปกครองและชุมชนซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงของสิ่งเสพติดและอบายมุขต่างๆ การให้ความรู้ ความเข้าใจ การทำกิจเมตตา ช่วยเหลือ การบริจาค การไม่ฟุ่มเฟือย การสั่งสอนให้เด็กๆ สามารถแยกแยะความดีจากความชั่วได้ รู้จักเลือกทำดี หลีกหนีจากสิ่งไม่ดีที่เป็นภัย การเริ่มต้นมหาพรตปีนี้ ตรงกับวันวาเลนไทน์ ถือเป็นเวลาอันดีงามที่จะให้ความรักแก่ผู้คนที่อยู่โดยรอบโรงเรียน การปฏิบัติหน้าที่ออกสู่ชุมชน ให้พวกเขารักลูกหลาน ห่างไกลบุหรี่/บุหรี่ไฟฟ้า ลด ละ เลิก จากสิ่งที่เป็นภัยแก่ตนเองและผู้อื่น ให้แนวทางในการวางรากฐานชีวิตที่เข้มแข็ง ปฏิบัติความดีดุจสร้างบ้านชีวิตไว้บนศิลา

                    สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย จึงเชิญชวนโรงเรียน วัดและชุมชน ร่วมกันทำให้เทศกาลมหาพรต ปี 2567 นี้ให้มีความหมายและเป็นรูปธรรม การภาวนาเพื่ออิสรภาพทางจิตวิญญาณ การทำทานแบ่งปัน และการไม่เบียดเบียนตนเอง ด้วยการลดละเลิกสิ่งเสพติดและอบายมุขต่างๆ และเราจะร่วมขับเคลื่อนสังคมอย่างต่อเนื่องเพื่อธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องและปกป้องเด็กเยาวชนของเราให้ปลอดภัยจากความล่อลวงต่างๆ

Shares:
QR Code :
QR Code