‘สปสช.’ เตรียมเดินหน้าบริการตรวจแล็บใกล้บ้าน
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้ สปสช. ได้สนับสนุนการให้บริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โดย “บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการใกล้บ้าน (Lab Anywhere)” เป็นหนึ่งในบริการ ที่ สปสช. ได้ร่วมกับสภาเทคนิคการแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผู้มีสิทธิบัตรทอง และช่วยลดความแออัด ในโรงพยาบาล
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการร่วมให้บริการผ่านระบบประชุมออนไลน์ มีตัวแทนจากสภาเทคนิคการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการคลินิกเทคนิคการแพทย์จากทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟัง ทั้งนี้ ภาพรวมของบริการ Lab Anywhere นี้ คลินิกเทคนิคการแพทย์จะเป็นเครือข่าย การให้บริการกับหน่วยบริการ โดยมี สปสช.เขต เป็นผู้จัดเครือข่าย
“โดยคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่เข้าร่วมให้บริการ จะให้บริการเจาะเลือด เก็บสิ่งส่งตรวจ พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือให้ไปเจาะเลือดที่บ้านใน พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผลแล็บ ซึ่งจะให้บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ และบริการสร้างเสริม สุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายกรณีผู้ป่วยนอก (OP) มีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการที่ดูแล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือ ที่บ้าน โดยการรับบริการเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้าน จะเป็นกรณีที่ไม่สามารถมารับบริการที่สถานพยาบาลได้ เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยชรา ผู้ป่วยที่มีภาวะ พึ่งพิง หรือกรณีมีความจำเป็น ส่วน บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
กำหนดให้บริการ 2 รายการ คือ 1.บริการตรวจทดสอบปัสสาวะ ในกรณีสงสัยว่าการตั้งครรภ์ กับ 2.บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สำหรับประชาชนอายุ 50-70 ปี ทุก 2 ปี ซึ่งทั้ง 2 รายการ กลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ส่วนอัตราการชดเชยค่าบริการนั้น จะชดเชยเป็นค่าบริการเก็บสิ่งส่งตรวจ และ ค่าตรวจวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการตามรายการบริการที่ สปสช.กำหนด (Fee schedule) ส่วนกรณีเก็บสิ่ง ส่งตรวจที่บ้านจ่ายเพิ่มเติม 80 บาท ทั้งนี้จะไม่สามารถเรียกเก็บเพิ่มเติมจากผู้รับบริการได้
ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า บริการ Lab Anywhere เป็นการเสริมบทบาทของวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ในการร่วมดูแลสุขภาพประชาชน ซึ่งในส่วนของสภาฯ ได้มีการนำร่องการตรวจประเมินรับรองคุณภาพคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่จะเข้ามาเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ รวมทั้งกำกับติดตามคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ สถานพยาบาลที่ส่งต่อคนไข้มารับบริการ
โดยบริการ Lab Anywhere ยังได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย ในการร่วมให้ความรู้ต่างๆ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการในเรื่องการทดสอบความชำนาญ และบริษัทเอกชนที่ช่วยในเรื่องการสอบเทียบเครื่องมือต่างๆ ด้วย ซึ่งสภาฯ เริ่มหารือ การจัดบริการของคลินิกเทคนิคการแพทย์ ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2565 ทั้งเรื่องการวางระบบ รับรองคุณภาพ และการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช.
“กระทั่งเดือนต.ค. 2565 คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ สปสช. ได้เห็นชอบให้ดำเนินการบริการ Lab Anywhere และจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนเริ่มเปิดบริการเร็วๆ นี้ ปัจจุบันมีคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกับ สปสช. แล้ว 26 แห่ง และมีคลินิกเทคนิคการแพทย์อีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการสมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ทนพ.สมชัย ระบุ
ทั้งนี้ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่จะร่วมให้บริการต้องผ่านการรับรองมาตรฐานสภาเทคนิคการแพทย์ (LA; Laboratory Accreditation) หรือ มาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (MOPH ) หรือ มาตรฐานราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย หรือ มาตรฐาน ISO 15189 ) และผ่านการพิจารณาการเข้าร่วมให้บริการจากสภาเทคนิคการแพทย์ก่อน จึงจะสามารถสมัครเข้าร่วมเป็นให้บริการได้
สำหรับบริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ ตาม หมวดหมู่ดังนี้ 1.การตรวจหาความเข้มข้น และความผิดปกติของเม็ดเลือด (Complete Blood Count : CBC) 2.การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar) 3.การตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1C) 4.การตรวจระดับ ไขมันในเลือด (Lipid Profile : Cholesterol, HDL, LDL, Triglyceride) 5.ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test : SGOT, SGPT, ALK, Total Protein, Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin) 6.การตรวจหาค่ากรดยูริก (Uric Acid) 7.การตรวจการทำงานของไต (BUN, Creatinine) 8.การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) 9.การ ตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)