สธ.แจกยาไอโอดีนป้องกันโรคจากรังสี

สธ.แจกยา โปตัสเซียม ไอโอไดด์ให้ชาวไทยที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น พร้อมตั้งจุดคัดกรองผู้โดยสารเข้าประเทศ สังเกตอาการป่วยจากการได้รับกัมมันตรังสี

สธ.แจกยาไอโอดีนป้องกันโรคจากรังสี

ช่วงเช้าของวันที่ 17 มี.ค.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของ สธ.เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมของหน่วยให้คำปรึกษาสุขภาพแก่ผู้เดินทางเข้า-ออก ระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ สธ.ได้ตั้งหน่วยบริการ 2 จุด แบ่งเป็น 1.ขาออกนอกประเทศ บริเวณชั้น 4 ประตู 6 กรมการแพทย์เป็นผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่แจกโปตัสเซียม ไอโอไดด์ (potassium iodide -ki) แก่ประชาชนชาวไทยที่มีกำหนดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงในประเทศญี่ปุ่น คือตอนเหนือของกรุงโตเกียว อาทิ จังหวัดฟุกุชิมะ เพื่อป้องกันต่อมไทรอยด์ถูกทำลายจากกัมมันตรังสี

2.ขาเข้าประเทศ บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง ด้านในสนามบิน มีหน้าที่คัดกรองประชาชนชาวไทยที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นด้วยแบบสอบถามพร้อมให้คำแนะนำและสังเกตสัญญาณการป่วย อาทิ คลื่นไส้ อาเจียน เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างทันท่วงที

สำหรับเที่ยวบินไทย-ญี่ปุ่น มีด้วยกันทั้งสิ้น 20 เที่ยวบิน จาก 7 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย (tg) เจแปนแอร์ไลน์ (jl) ออลนิปปอน (nh) บิสสิเนสแอร์ (8b) ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (ua) เดลต้าแอร์ไลน์ (dl) และ ศรีลังกาแอร์ไลน์ (ul) โดยตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน มีเที่ยวบินขาเข้ามาแล้ว 9 เที่ยวบิน จาก 3 เมือง ได้แก่ โอซาก้า นาริตะ และโตเกียว โดยมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 1,842 ราย แบ่งเป็นชาวไทย 550 ราย และลูกเรือชาวไทยอีก 29 ราย เบื้องต้นมีผู้ใช้บริการคัดกรองผ่านแบบสอบถามแล้ว 10 ราย ซึ่งไม่พบความผิดปกติใดๆ

หนึ่งในทีมพยาบาลโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยให้บริการขาออก อธิบายว่า โปตัสเซียม ไอโอไดด์ ที่แจกให้กับประชาชนมีลักษณะเป็นกระปุก กระปุกละ 10 เม็ด มี 2 ขนาดคือ 65 มิลลิกรัมและ 130 มิลลิกรัม โดยจะแจกให้เฉพาะชาวไทยเท่านั้น และต้องมีหนังสือเดินทางหรือตั๋วเพื่อยืนยันว่าจะเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงจริง ทั้งนี้ยืนยันว่า โปตัสเซียม ไอโอไดด์มีเพียงพอ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีรับประทานคือ รับประทานก่อน 1 – 12 ชั่วโมง ที่จะเข้าไปในบริเวณพื้นที่เสี่ยงรั่วของรังสีจากไอโอดีน 131 ส่วนขนาดการรับประทาน ทารกแรกเกิด – 1 เดือน รับประทาน 16 มิลลิกรัม เด็กอายุ 1 เดือน – 3 ปี รับประทาน 32 มิลลิกรัม เด็กอายุ 3 – 18 ปี รับประทาน 65 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่อายุถึง 40 ปี รับประทาน 130 มิลลิกรัม ผู้ใหญ่อายุเกิน 40 ปี รับประทานเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีรังสีมากๆ เท่านั้น เนื่องจากโอกาสเกิดมะเร็งต่อไทรอยด์น้อยมาก ส่วนหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรควรรับประทาน 130 มิลลิกรัม

คุณสมบัติของ โปตัสเซียม ไอโอไดด์ 1 เม็ด (130 มิลลิกรัม) จะป้องกันการถูกทำลายและการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์จากรังสีได้ 24 ชั่วโมง โดยผู้รับประทานอาจเกิดผลข้างเคียง อาทิ อาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ร้อนในปากและลำคอ ปวดท้อง ท้องเสีย ต่อมน้ำลายอักเสบ ต่อไทรอยด์อักเสบ ร้อนวูบวาบ เป็นสิว มีน้ำตาไหล อย่างไรก็ดี ผู้ที่แพ้ไอโอดีน ผู้ที่ป่วยต่อมไทรอยด์มีพิษ ผู้ที่รับประทานยาอื่นซึ่งมีไอโอดีนสูง และผู้ที่ป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ห้ามรับประทาน โปตัสเซียม ไอโอไดด์หรือต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

ด้าน นายจุรินทร์ ยืนยันว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ แต่เป็นมาตรการเพื่อดูแลประชาชนชาวไทย

 

 

 

ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์

Shares:
QR Code :
QR Code