สธ. เผยสถิติผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ เกือบครึ่งเป็นเยาวชน

เหตุสื่อลามกเร่งมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น โดยขาดการป้องกัน

 

          กระทรวงสาธารณสุข เผยสถิติผู้ป่วยเอดส์รายใหม่เกือบครึ่งเป็นเยาวชน เหตุจากสื่อลามกเร่งเด็กมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นโดยขาดการป้องกัน เตรียมจัดขบวนรณรงค์ 28 พ.ย.นี้ รับวันเอดส์โลก หวังดึงเยาวชนสนใจเรียนรู้การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

 

          นายวิชาญ  มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า ในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคมนี้ ทางองค์การอนามัยโลกได้กำหนดคำขวัญ “เอดส์หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา” (stop aids. keep the promise.) มุ่งเน้นให้ผู้นำแต่ละประเทศเร่งขยายเป้าหมายการป้องกัน และให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงการดูแล รักษา และการหนุนเสริมอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึงภายใน พ.ศ.2553

 

          ปัจจุบันทั่วโลกยังมีแนวโน้มผู้ป่วยเอดส์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สาเหตุหลักจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ป่วยเอดส์ทั้งสิ้น 33.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 93 เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 30.8 ล้านคน ที่เหลืออีกกว่า 2 ล้านคนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2.1 ล้านคน  คาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 ล้านคน หรือนาทีละ 5 คน โดยกว่าร้อยละ 40 ของผู้ป่วยใหม่เป็นวัยรุ่นอายุ 15 – 24 ปี โดยพบหญิงป่วยมากกว่าชาย 2 เท่าตัว สาเหตุจากสื่อลามกที่เข้าถึงง่าย กระตุ้นให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้นโดยขาดความรู้ในการป้องกัน ซึ่งจะพบว่าวัยรุ่นดูหนังหรือวิดีโอโป๊เฉลี่ยร้อยละ 60 วัยรุ่นชายดูร้อยละ 82 วัยรุ่นหญิงดูร้อยละ 48 และเปิดเว็บลามกดูเฉลี่ยร้อยละ 35 หรือประมาณ 1 ใน 3 ของวัยรุ่น และมีอัตราการป้องกันการติดเชื้อเมื่อมีเพศสัมพันธ์ต่ำกว่าร้อยละ 50

 

          ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงเตรียมจัดรณรงค์ป้องกันเอดส์ก่อนถึงวันเอดส์โลก ซึ่งจะมีการจัดรณรงค์เน้นในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นพร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับส่วนกลาง กทม. จะจัดงานวันที่ 28 พ.ย.นี้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล โดยมีนักร้องนักแสดงร่วมขบวนรณรงค์ดึงความสนใจเยาวชนให้เรียนรู้ถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

 

          ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเดินหน้ารณรงค์ความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยจะต่อยอดความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ดึงสถานศึกษาพัฒนาเครือข่ายเยาวชนป้องกันเอดส์ ให้ครอบคลุมเพิ่มอีก 146 แห่ง ใน 43 จังหวัด ภายในปี 2554 หลังจากที่ขณะนี้มีสถานศึกษาเข้าร่วมเป็นเครือข่ายต้านเอดส์แล้ว 73 แห่ง ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ

 

 

 

 

 

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

 

 

update 24-11-51