สธ.เตือน ‘3 โรค’ ที่อาจติดมากับ ‘เสื้อกันหนาวมือสอง’
ปลัด สธ.เตือนประชาชนระวัง “3 โรค” ที่อาจติดมากับ “เสื้อกันหนาวมือสอง” ทั้งกลากเกลื้อน, ภูมิแพ้ โรคติดต่อ และโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ช่วงนี้หลายจังหวัดของประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลง โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อากาศเย็นลงเร็วกว่าทางภาคอื่น จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สวมเสื้อผ้าให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ เรื่องที่ห่วงใยในฤดูหนาวนี้ประชาชนส่วนใหญ่มักซื้อหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวมือสอง ซึ่งมีให้เลือกจำนวนมากและราคาถูก ทำให้เป็นที่นิยมซื้อกันมาก ซึ่งข้อมูลจากกรมศุลกากรในปี 2555 มีสถิติการนำเข้าเสื้อผ้าที่ใช้แล้วหรือของอื่นที่ใช้แล้วระหว่างเดือน มกราคม-กันยายน 2555 จำนวน เกือบ 20 ล้านกิโลกรัม มูลค่านับพันล้านบาท
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่อาจติดมากับเสื้อกันหนาวมือสองอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ หากไม่ทำความสะอาดเสียก่อน ซึ่งที่สำคัญมี 3 โรค ได้แก่ 1.โรคกลากเกลื้อน ซึ่งเกิดจากเชื้อรา ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงกลายเป็นผื่นแพ้ และมีอาการคัน 2.โรคภูมิแพ้ซึ่งเกิดได้หลายกรณี ทั้งจากฝุ่นใยผ้า และฝุ่นที่ติดตามกระสอบบรรจุระหว่างการขนส่ง หรือเกิดจากการแพ้น้ำยารีดผ้าเรียบที่ใช้รีดก่อนจำหน่าย น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูง อาจระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจหรือโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงมากขึ้น และ 3.โรคติดต่อและโรคผิวหนังจากพาหะนำโรค อาจปะปนมากับเสื้อกันหนาวมือสอง ได้แก่ ตัวไร ตัวเรือด เห็บ หมัด และโลน ซึ่งมักชอบอาศัยอยู่ในใยผ้าที่สกปรก อาจทำให้เกิดอาการผื่นคัน ระคายเคืองและเป็นแผลได้
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพิ่มกินผักและผลไม้หลากสี เช่น ผักคะน้า ตำลึง ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ มะละกอสุก มะม่วงสุก ส้ม ฝรั่ง ลิ้นจี่ เป็นต้น เนื่องจากผักและผลไม้เหล่านี้จะมีวิตามินซีและเอ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรค ช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น และบำรุงผิวพรรณ ให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที และกินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ จะป้องกันโรคติดเชื้อจากอาหารและน้ำ และโรคทางเดินหายใจได้
ด้าน นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการเลือกซื้อและใช้เสื้อกันหนาวมือสอง กรณีของผู้ค้า ไม่ควรวางเสื้อผ้ากองกับพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีฝุ่นละอองและแมลงชนิดต่างๆ เข้าไปอาศัยในเสื้อผ้าได้ ส่วนประชาชนขณะที่เลือกซื้อควรสวมผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันการสูดฝุ่นละอองที่มากับเสื้อผ้า เลือกเสื้อผ้าที่มีสภาพดี ตรวจสอบรอยด่างดำ รอยคราบสกปรก รวมไปถึงกลิ่นอับชื้น ควรหลีกเลี่ยงผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ประเภทขนฟู เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
ทั้งนี้ ก่อนใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ขอให้นำมาซักทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า และนำไปตากแดดจัดจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ หรือให้ซักแล้วนำมาต้มในน้ำเดือดหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่มีอาการคันจากเชื้อราในร่มผ้าหลังใช้เสื้อกันหนาวมือสอง ไม่ควรแคะหรือแกะเกา หรือปล่อยไว้จนลุกลาม ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ