สธ.สรุปผลตรวจเชื้ออีโคไลผลไม้วันนี้

“จุรินทร์” เผยผลการตรวจเชื้ออีโคไล ในผลไม้นำเข้าจากยุโรปจะทราบผลชัดเจนวันนี้ ยันกระแสข่าวเชื้อปนเปื้อนในนมยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลการสอบสวนโรคที่เป็นทางการ และประกาศของประเทศต้นทาง ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล เพื่อให้คำปรึกษาแพทย์ที่ให้การรักษาทั่วประเทศ ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดอัตราการติดเชื้อผู้ป่วยรายใหม่ชะลอตัวลง โดยพบผู้ป่วยใน 13 ประเทศเช่นเดิม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีข่าวการปนเปื้อนเชื้ออีโคไลในนมว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนอย่างเป็นทางการ ซึ่งข้อเท็จจริงอาจจะเป็นได้ เพราะเชื้ออีโคไล จะอยู่ในระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์ เช่น วัว กระบือ จึงมีโอกาสและมีความเป็นไปได้ที่อาจจะปนเปื้อนมากับนม โดยเฉพาะในนมพาสเจอร์ไรซ์ที่ใช้ความร้อนไม่ถึง 70 องศาเซลเซียส ทำให้เชื้อไม่ตาย แต่ทั้งหมดจะด่วนสรุปไม่ได้ ต้องรอผลการสอบสวนโรคที่เป็นทางการ และประเทศนั้นๆ เป็นผู้ประกาศออกมา ขณะนี้จึงเป็นเพียงการสันนิษฐาน เช่นเดิมสันนิษฐานว่าเชื้อมาจากถั่วงอก แตงกวา เป็นต้น

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยได้มีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้ 4 มาตรการที่ได้สั่งการและมีการดำเนินการแล้ว โดยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2554 ได้มีการแจกเอกสารคำแนะนำเรื่องการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลชนิดรุนแรง โอ 104 (Enterohaemorrhagic E.coli O104) รวมทั้งคำแนะนำในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล ซึ่งขณะนี้ได้จัดพิมพ์ทั้งหมดจำนวน 50,000 ฉบับ ได้แจกให้ 13 สายการบินที่เดินทางมาจาก 13 ประเทศในยุโรปเพื่อแจกให้ทั้งคนไทยและต่างชาติบนเครื่องแล้ว

ส่วนการเฝ้าระวังผักผลไม้นำเข้าจากประเทศในยุโรปนั้น ด่านอาหารและยา ประจำท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ได้เก็บตัวอย่างผัก ผลไม้นำเข้า 2 ชนิด ได้แก่ อโวคาโด และกะหล่ำปลีปม ส่งตรวจวิเคราะห์เชื้ออีโคไลที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงเชื้อ 2 วัน จะทราบผลตรวจอโวคาโดเบื้องต้นในเช้าวันนี้ (9 มิ.ย.54) ส่วนกะหล่ำปลีปมจะทราบผลในวันที่ 10 มิ.ย. 2554โดยหากพบว่าเป็นเชื้ออีโคไล จะส่งตรวจเพื่อวิเคราะห์ว่าเป็นสายพันธุ์ใด จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคอุจจาระร่วง 1 ชุด ประมาณ 9 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศที่ให้การรักษาผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด รวมทั้งเสริมมาตรการด้านการป้องกันและควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้จากการประชุมประเมินสถานการณ์ของวอร์รูมกระทรวงสาธารณสุข พบว่าอัตราการติดเชื้อผู้ป่วยรายใหม่ชะลอตัวลง พบผู้ป่วยใน 13 ประเทศเช่นเดิม

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ