สธ.สงขลา ให้กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


สธ.สงขลา ให้กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ thaihealth


แฟ้มภาพ


สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน ผู้มีโรคเรื้อรัง


          นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ของประเทศไทย โดยข้อมูลจากสานักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 7 พฤษภาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ 45,382 ราย (คิดเป็นอัตราป่วยเท่ากับ 69.36 ต่อประชากรแสนคน) เสียชีวิต 5 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 35-44 ปี (11.37 เปอร์เซ็นต์) รองลงมา 25.34 ปี (11.17 เปอร์เซ็นต์) และ 15-24 ปี (9.47 เปอร์เซ็นต์) ตามลำดับ


          จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคน สูงสุด 5 อันดับแรก คือ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา กรุงเทพมหานคร ลาพูน และจังหวัดอุตรดิตถ์ ส่วนสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ของจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 7 พฤษภาคม 2561 พบว่ามีรายงานผู้ป่วย 433 ราย คิดเป็นอัตราป่วยเท่ากับ 30.73 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยส่วนใหญ่พบผู้ป่วยในกลุ่มอายุแรกเกิด ถึง 4 ปี อัตราป่วยเท่ากับ 86.07 รองลงมากลุ่มอายุ 5-9 ปี อัตราป่วยเท่ากับ 66.33 และกลุ่มอายุ 10-14 ปี อัตราป่วยเท่ากับ 34.91 ตามลาดับ โดยอำเภอที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ อำเภอ เมืองสงขลา รองลงมา คือ อำเภอสิงหนครและบางกล่ำ ตามลำดับ


          สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังป้องกันโรคไข้หวัด ใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด ฉีด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ 1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย , 2.ล้าง คือ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและ สบู่ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสารหลังไอจาม และก่อนรับประทานอาหาร , 3.เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย , 4. หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มาก ก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ และ 5.ฉีด คือ ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงฯ ทั้งนี้ หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ มีน้ำมูก โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ ผู้สูงอายุ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีภาวะอ้วน ให้รีบพบแพทย์ เพราะคนเหล่านี้เมื่อติดเชื้อแล้วจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ส่วนบุคคลทั่วไป ควรทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ฉบับที่ 211 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2561


          นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล ได้กล่าวย้ำว่า สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี ที่มีอาการ) ผู้ที่เป็นโรคอ้วน (น้าหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีค่า ดัชนีมวลกาย : BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) โดยกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวให้ไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในช่วงการรณรงค์ฯ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2561 ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code