สธ.ย้ำยกเลิกใช้ "ไขมันทรานส์" ไม่กระทบวิถีชีวิต

ที่มา : MGR Online 


สธ.ย้ำยกเลิกใช้


แฟ้มภาพ


รมว.สธ.เผยทูตเม็กซิโกชื่นชมไทยประกาศยกเลิกใช้ "ไขมันทรานส์" ย้ำน้ำมันพืชยังใช้ได้ตามปกติ ไม่กระทบวิถีชีวิตคนไทย ชี้ทำอาหารเองไม่มีการใส่ไขมันทรานส์ เน้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่นิยมใช้


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังหารือกับนายไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ต ซานเซซ (Mr.Jaimes Virgilio Nualart Sanchez) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทยในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ว่า จากการที่ประเทศไทยออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย เพื่อควบคุมและกำกับดูแลไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป เอกอัคราชทูตเม็กซิโกได้ชื่นชมประเทศไทยมาก ที่ไทยสามารถควบคุมการใช้ไขมันทรานส์และสามารถทำให้ทุกภาคส่วนเข้าใจได้ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าได้กังวล เพราะน้ำมันพืชที่ใช้ตามครัวเรือนยังสามารถรับประทานได้เหมือนเดิม เนื่องจากไขมันที่มาจากธรรมชาติไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ซึ่งเป็นแหล่งของกรดไขมันทรานส์ และกรดดังกล่าวก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นปัญหาและสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของโลก และองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการขอความร่วมมือจากทั่วโลกในการเลิกใช้ด้วย


นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จากการที่ไทยควบคุมการใช้ไขมันทรานส์นั้น ชีวิตประชาชนไม่มีอะไรต้องเปลี่ยน เพียงแต่จะมุ่งเน้นควบคุมผู้ผลิต เพราะน้ำมันที่เติมไฮโดรเจนบางส่วนส่วนใหญ่อยู่ในแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น การผลิตครัวซอง โดนัท เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นผู้ผลิตหลายรายที่เห็นแก่สุขภาพของประชาชนก็มีการปรับเปลี่ยนสูตรไปบ้างแล้ว และขอย้ำว่าการปรับเปลี่ยนสูตรราคาสินค้าก็ไม่ได้ปรับขึ้น การรับประทานอาหารก็ทำได้ตามปกติ และหากกังวลก็ให้ดูที่ฉลากและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม หน้าที่ในการตรวจสอบควบคุม ป้องกัน ผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ดังนั้นประชาชนจะมี อย.คอยดูแลอยู่แล้ว


“การเติมไฮโดรเจนลงไปเพื่อทำให้อาหารอยู่คงตัวในสภาพเดิมได้นานขึ้น แทนที่จะเหี่ยวลงก็จะช่วยให้คงรูปทำให้ขายได้แต่เป็นการขายได้จากรูปที่เห็นเท่านั้น แต่คุณภาพและประโยชน์ทางโภชนาการไม่ได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังมีผลเสียกับสุขภาพและก่อโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคหัวใจที่เป็นสาเหตุในการคร่าชีวิตคนไทยจำนวนมาก ซึ่งเวลาเราทำอาหารรับประทานเองก็ไม่จำเป็นต้องใส่ เช่นเดียวกับกล้วยแขกก็ไม่ได้ใช้น้ำมันทรานส์อยู่แล้ว ซึ่งการควบคุมไขมันทรานส์ จะกระทบกับวิถีคนไทยน้อยมากและการควบคุมไขมันทรานส์ ครั้งนี้ก็เพื่อปกป้องสุขภาพคนไทยทุกคน” นพ.ปิยะสกล กล่าว

Shares:
QR Code :
QR Code