สธ.จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่-บรรจุแพ้ยาเข้าบัตรทอง
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
สธ. มอบของขวัญปีใหม่คนไทย จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ดูแลกาย ใจ ทั่วประเทศ พร้อมบรรจุการตรวจยีนแพ้ยาเข้าชุดสิทธิประโยชน์บัตรทอง แก้ปัญหาแพ้ยารุนแรง ลดตาย-พิการ
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าว “สธ.มอบของขวัญปีใหม่ เพื่อคนไทย ปี 2562” ว่า ของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนจะเน้นให้ประชาชนมีสุขภาพดี ซึ่งปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีนโยบายให้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปตรวจสุขภาพประชาชน แทนการตั้งรับอยู่ในรพ. ทั้งนี้ การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จะมีการตรวจทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต ตรวจตา ทันตกรรม เป็นต้น ให้บริหาร 878 อำเภอทั่วประเทศ รวมทั้งกทม. เพื่ออุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 11-24 ธ.ค.นี้ และ 7-20 ม.ค.2562 นอกจากนี้ยังร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ในการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ให้อสม.ด้วย นอกจากเพิ่มความสะดวกเรื่องการโอนค่าป่วยการแล้วยังเพิ่มความสะดวกเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลการดูแลสุขภาพประชาชนด้วย
นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก ก่อนเริ่มให้ยารักษาต้องได้รับการตรวจหายีนแพ้ยากันชักคาร์บามาซีปีน เพื่อป้องกันการแพ้ยารุนแรงในกลุ่มสตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม และท็อกซิก อีพิเดอร์มัล เนโครไลซิส ซึ่งทำให้เกิดการหลุดลอกของผิวหนังและเยื่อเมือกบุอวัยวะ ต่างๆ อาจจะถึงขั้นตาบอดและเสียชีวิตได้ ซึ่งพบมากในมาเลเซียและไทย โดยช่วงปี 2545-2554 มีรายงานผู้ป่วยแพ้ยารุนแรงกว่า 5 พันคน เกิดจากคาร์บามาซีปีนปีละประมาณ 160-180 คน ตายปีละ 10 คน ทั้งนี้คาดว่าปี 2562 จะมีผู้ป่วยได้รับการตรวจยีนแพ้ยา 29,534 ราย ใช้งบในการตรวจ 29.53 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาการตรวจยีนแพ้ยาราคาแพงมาก ต้องส่งตรวจต่างประเทศราคาประมาณ 2-3 พันบาท แต่จากการที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถพัฒนาการตรวจได้ด้วยฝีมือคนไทย ทำให้ค่าตรวจเหลือเพียง 100 กว่าบาทเท่านั้น สามารถประหยัดงบประมาณได้หลายร้อยล้านบาท และคนไทยเข้าถึงมากขึ้น ซึ่งการตรวจนี้ฟรีสำหรับคนไทยทั้งหมด เบื้องต้นสิทธิประกันสังคม และข้าราชการ กรมวิทย์ฯ ออกค่าใช้จ่ายให้ก่อน และจะประสาน ทั้ง 2 กองทุนบรรจุเรื่องนี้เข้าในชุดสิทธิประโยชน์ต่อไป” นพ.ปิยะสกล กล่าว