สธ.จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม

/data/content/25164/cms/e_bfghiloqyz15.jpg

          กระทรวงสาธารณสุข ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะ ปกติ เฝ้าระวังโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคอุจจาระร่วง         

          นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ ประสบภัยน้ำท่วมจากฝนตกหนัก ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า จังหวัดศรีสะเกษ มีน้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนคูณ และอำเภอเบญจลักษณ์มีผู้ประสบภัย 50 หลังคาเรือน ส่วนจังหวัดอุบลราชธานีน้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอสำโรง อำเภอนาเยีย และอำเภอพิบูลมังสารหาร สถานบริการสาธารณสุขไม่ได้รับผลกระทบ ทุกแห่งเปิดให้บริการตามปกติ

          อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งที่มีพื้นที่น้ำท่วม จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะ ปกติ และให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลงสำรวจพื้นที่ แจกยาสามัญประจำบ้านให้ผู้ประสบภัยเพื่อดูแลสุขภาพเบื้องต้น ป้องกันโรคจากน้ำท่วม โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็ก ขณะนี้แจกไปแล้ว 500 ชุด นอกจากนี้ ได้ให้เฝ้าระวังโรค ที่มาในช่วงน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคอุจารระร่วง ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ง่าย เนื่องจากบ้านเรือนถูกน้ำท่วม ห้องน้ำห้องส้วมอาจใช้การไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานโรคระบาดพบเพียงโรคจากน้ำท่วมทั่วไป เช่น เป็นไข้ ปวดศีรษะ น้ำกัดเท้า เป็นต้น

          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอสม. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันโรคดัง กล่าว และขอความร่วมมือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ไม่ทิ้งขยะลงในน้ำท่วม หากห้องน้ำห้องส้วมใช้การไม่ได้ ขอให้ถ่ายอุจจาระลงในถุงดำ เพื่อนำไปกำจัดได้อย่างถูกวิธี เช่นการฝังกลบเมื่อน้ำลดแล้ว อย่าถ่ายลงน้ำเนื่องจากจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ง่าย รวมทั้งล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้ง ก่อนปรุงหรือรับประทานอาหาร และภายหลังจากถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ดื่มน้ำสะอาดเช่นน้ำบรรจุขวดหรือน้ำต้มสุกจะดีที่สุด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ภายหลังลุยน้ำ ย่ำโคลนขอให้ล้างทำความสะอาดมือ เท้า และเช็ดให้แห้งทุกครั้ง

 

 

         ที่มา : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

         ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code