สงกรานต์ เมาแล้วขับเกิดอุบัติเหตุมีโทษหนัก
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
ผบช.น. ประชุมมอบนโยบายดูแลความเรียบร้อยช่วงสงกรานต์ วางกำลัง 1.9 พันนาย เน้นความปลอดภัยและอำนวยการจราจร พร้อมห้ามนำถังน้ำขึ้นไปบนรถเด็ก จัดหนักเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตเจอโทษหนัก
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. (ดูแลงานป้องกันปราบปราม) ประชุมบริหารมอบนโยบายป้องกันปราบปรามประจำเดือน เม.ย. และมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.-สว.บก.น.1-9 บก.สปพ.(191) บก.อก.บช.น. รวม 200 นาย เพื่อเน้นย้ำมาตรการดูแลพื้นที่ระหว่างเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 12-16 เม.ย. ในพื้นที่กรุงเทพฯ
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวถึงมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า วันนี้ประชุม 2 เรื่องคือ 1. การรักษาความปลอดภัยในสถานที่มีการจัดงานสงกรานต์ขึ้น เกี่ยวกับการดูแลประชาชนนักท่องเที่ยวที่ออกมา ในช่วงเทศการสงกรานต์ร่วมรื่นเริงในประเพณีของไทย และ 2. การจราจร เช่น สถานีขนส่งต่างๆ สนามบินดอนเมือง ขณะนี้ทาง บช.น. ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระงับการลาพักผ่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นเช่นนี้ทุกปี เจ้าหน้าที่ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าเพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการจราจรและการดูแลความปลอดภัย ให้กับพี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในเมืองไทย เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจะต้องปฏิบัติหน้าที่ อย่างเช่น สถานีขนส่งเราก็จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลในเรื่องของการจราจรและดูแลความปลอดภัยของประชาชน ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นปกติโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลปีใหม่
ส่วนเรื่องของสถานที่จัดงานเรามีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เทศกิจ จำนวนเกือบ 1,900 นาย ในสถานที่ใหญ่ๆ ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด 14 จุด และสถานที่ต่างๆ อีกประมาณ 60 จุด เพื่อให้ความร่วมมือดูแลพี่น้องประชาชนและนักท้องเที่ยวคิดว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ที่ถนนข้าวสารจากที่ตนได้รับรายงานจาก สน.ท้องที่ มีการเล่นรื่นเริงตามปกติเพียงแต่ว่าปีนี้คณะจัดงานที่เคยจัดตั้งเวทีแสดงปีนี้งด แต่การเล่นน้ำนักท่องเที่ยวยังเล่นน้ำสงกรานต์ได้ตามปกติ โดยให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมายหรือประเพณีไทยและเป็นเช่นนี้ทุกพื้นที่
ส่วนถนนเส้นอื่นๆ สามารถเล่นสาดน้ำกันได้แต่มีบางห้วงเวลาที่ห้ามรถวิ่ง เช่น เวลา 12.00 น. – 24.00 น. เป็นลักษณะทำนองนี้มีด้วยกันหลายเส้นได้มีการออกกฎจราจรไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเอาถังน้ำขึ้นไปตั้งบนรถอันนี้ห้ามแน่นอนและห้ามดื่มสุรา ปีนี้นโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ถ้าใครดื่มสุราแล้วขับรถจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้พิจารณาโทษอย่างหนักหรือให้แจ้งข้อหาหนัก
"เรื่องนี้ตนขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่า การเดินทางหรือจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม ไม่ได้เดือดร้อนแค่ตัวท่านแต่เพียงผู้เดียว การดื่มสุราขับรถจนกระทั่งไม่สามารถรวบคุมตัวเองได้ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส เพราะของเราสูญเสียทุกปีและปีนี้รัฐบาลให้ความสำคัญมาก ฝากร้องขอพี่น้องประชาชนจะเที่ยว หรืออยากจะเล่นก็อยู่ในประเพณีไทย หรืออยากจะดื่มสุราก็ให้อยู่ที่บ้านเล่นที่บ้านอย่าออกขับรถเลย ไม่ได้เสียหายหรือเสียชีวิตเฉพาะตัวของท่านเอง แต่คนอื่นซึ่งเขาไม่เกี่ยวข้องไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในสภาพอย่างนี้" ผบช.น. กล่าว
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ด้านการข่าวยังไม่พบเหตุความไม่สงบหรือเหตุความรุนแรง ตนเองมั่นใจในเขตกรุงเทพฯ สิ่งที่จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอะ เพื่อดูแลความสะดวกด้านการจราจร ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนดื่มสุราอาจจะมีเหตุกระทบกระทั้งทะเลาะวิวาท อันนี้คือสิ่งหนึ่งที่ตนต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่เป็นเรื่องการดูแลด้านความมั่นคงแต่อย่างใด
ส่วนจุดตรวจจุดสกัดเน้นตั้งแต่ช่วงที่เรามีการระดมกลาดล้าง ตั้งแต่วันที่ 1 – 10 เม.ย. ตนได้สั่งการณ์ให้ทั้ง 88 สน. เน้นทุกช่วงของการตั้งด่านทุกพื้นที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราไม่มีการลาไปไหนในห้วงของเทศกาลสำคัญต่างๆ ตนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพราะฉะนั้นในการตรวจหรือตั้งด่านต่างๆ เน้นในเรื่องการตรวจอาวุธและการดื่มสุราหรือผู้ขับขี่ที่มีอาการมึนเมา
ส่วนที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ห้ามนำคนเมาสุราโดยสารร่วมเพราะจะมีความผิดนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ความหมายคืออย่าให้มีสุราบนรถเป็นการบ่งบอกว่าผู้ขับขี่อาจจะต้องดื่มสุราด้วย แต่ถ้าเขาไปดื่มที่อื่นมาแต่คนขับไม่ได้ดื่มแล้วขึ้นมานั่งบนรถตนว่าคงไม่ใช่ ส่วนกรณีคนขับเมาแล้วเรานั่งอยู่ด้วยไม่ตักเตือนผิดหรือไม่นั้น ถ้าถามความรู้สึกของตนมองว่าถ้าคนขับเขาไปดื่มมาแล้วแวะรับเพื่อน บางทีการดื่มสุราบางคนอาการไม่เหมือนกันบางคนดื่มนิดเดียวก็เมาแล้ว บางคนดื่มไปตั้งเยอะแต่ไม่มีอาการอะไรแต่พอวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก็จะทราบ แต่สิ่งสำคัญมีเครื่องบ่งบอกก็คือสุราบนรถอันนี้แน่ชัด ไม่ใช่ว่าคนขับดื่มสุรามานิดเดียวแล้วแวะรับแต่ถ้าดื่มด้วยกันแล้วให้เขาขับอันนี้แน่ชัด