สงกรานต์นี้ “งดซดเหล้า สาดสร้างสรรค์”

นับเวลาถอยหลังสู่เทศกาลมหาสงกรานต์ทั่วไทย ช่วงเวลาดับร้อนในเดือนที่อากาศร้อนสุดขีด ช่วงเวลากลับบ้านพักผ่อนไปสนุกสนานกับครอบครัว, ช่วงเวลาแสดงความเคารพบูชาผู้เฒ่าผู้แก่ และช่วงเวลาแห่งความสุขหรรษาของชาวไทยทุกคน

ในขณะที่ความสนุกสนานเกิดขึ้นนั้น สิ่งที่มักจะตามมาคือ “ขาดสติ” ซึ่งสาเหตุก็เกิดจากการดื่มเหล้านั่นเอง และในช่วงเทศกาลแบบนี้เราจะเห็นร้านเหล้าบนทางเท้าผุดขึ้นมาเยอะมากตามริมข้างทางและตามสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้การเข้าถึงเครื่องดื่มเหล่านี้มีมากขึ้น

สำหรับการ “ห้ามขาย-ดื่มเหล้าบนทางเท้า” เป็นนโยบายที่หน่วยงานควบคุมดูแลพยายามผลักดัน โดย นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ทำงานแก้ปัญหาสุราในระดับหัวแถวของประเทศไทย บอกว่า ร้านเหล้าบนทางเท้าเป็นสาเหตุทำให้มีนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มขึ้นได้ ผ่าน 2 กลไก คือ 1) ทางใจ เพราะถือเป็นการจูงใจที่สำคัญ ดังคำกล่าวว่า “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น” การที่เด็กและเยาวชนเห็นการซื้อขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนเป็นสินค้าปกติในสถานที่สาธารณะริมถนนหนทางต่างๆ แม้ผู้ใหญ่จะพร่ำสอนว่าเหล้าเบียร์ไม่ดีเท่าไรก็ตาม แต่ผู้ใหญ่เองกลับซื้อขายและดื่มให้ดูอย่างโจ่งครึ้มริมถนนสาธารณะแบบนี้ เด็กก็คงจะไม่เชื่อ และ 2) ทางกายภาพ คือ การเปิดร้านขายเหล้าบนทางเท้านี้ทำให้เด็กเข้าถึงได้ง่ายมากๆ

เทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ จึงขอเชิญชวนให้ทุกคน “งดซดเหล้า” โดย     พี่หนุ่มใหญ่-นักรักพงษ์ คำซาว แกนนำเยาวชนเฝ้าระวังภัยแอลกอฮอล์ ภาคเหนือตอนบน เล่าว่า การจัดพื้นที่ให้มีการขายหรือดื่มกินบริเวณฟุตปาธหรือตามแหล่งท่องเที่ยว ผมมองว่าเป็นจุดเพิ่มโอกาสการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะปกติร้านเหล่านี้จะเปิดในช่วงตอนเย็นแล้ว แต่พอมีเทศกาลแล้วก็แทบจะเปิดกัน 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว เนื่องจากมีการกระจุกตัวของคนจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยวในงาน ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงเครื่องดื่มเหล่านี้มากขึ้น

ผลเสียที่ตามมาก็คือ “ขาดสติ” อารมณ์ร้อน นำไปสู่ความรุนแรง เกิดการทะเลาะวิวาท การเล่นน้ำแบบไม่ให้เกียรติกัน มีการลวนลามผู้หญิง หรือการสาดน้ำแบบแรงๆ สร้างความเสื่อมเสียตามมามากมาย โดยอย่างน้อยที่สุดคือ สร้างความกลัวให้กับผู้อื่นที่มาร่วมงานด้วย เพราะคนที่ออกมาเที่ยวส่วนใหญ่นั้นต้องการมาร่วมสนุกและพักผ่อน แต่กลับต้องมาคอยหวาดระแวงหันซ้ายหันขวากังวลกับขี้เมาบางคนในงาน ทำให้ความสนุกในงานน้อยลง สร้างความวุ่นวาย และลดคุณค่าความดีงามของประเพณีลงไป

ดังนั้นสงกรานต์นี้ เราขอชวนทุกคนมาดับร้อน ด้วยการ “สาดสร้างสรรค์” โดย 4 วิธีง่ายๆ ได้แก่

1.แต่งกายสีสันสดใส เน้นความเป็นคัลเลอร์ฟูล ไม่โป๊ สร้างความโดดเด่น ทำให้ผู้อื่นก็อยากมาร่วมสนุกด้วย เป็นการสร้างบรรยากาศมหาสงกรานต์ไทยครึกครื้น

2.เพิ่มลูกเล่นด้วยการออกกำลังกายโดยการขี่จักรยาน รวมพลชาวแก็งค์ให้พร้อมแล้วยกพวกไปปั่นเล่นน้ำกัน แทนการขี่รถมอเตอร์ไซด์ เพราะนอกจากจะช่วยลดอุบัติเหตุแล้ว ยังช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยมลพิษอีกด้วย

3.สาดน้ำไม่แต๊ะอั๋งแมนโคตร ต้องสาดน้ำแบบให้เกียรติกัน ไม่ลวนลาม ไม่ใช้ความรุนแรง

4.งดดื่มน้ำเมาทุกชนิด เพราะน้ำเมาเป็นสาเหตุของความเสื่อมเสียในช่วงเทศกาลนี้ ทั้งอุบัติเหตุ และการทะเลาะวิวาท

ดูเหมือนปีนี้อากาศจะร้อนกว่าปีที่ผ่านๆ มา ฉะนั้นแล้ว สงกรานต์ปีนี้คงไม่มีใครอยากฉลองเทศกาล ด้วยการเพิ่มดีกรีความร้อนแรงของอุบัติเหตุและความรุนแรง อันจะนำไปสู่ความสูญเสียมากมายทั้งในแง่ของทรัพยากรบุคคล เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว

ทางที่ดีเรามาร่วมกันรักษาวัฒนธรรมแห่งรอยยิ้มนี้ไว้ โดยแสดงออกผ่านความคิดสร้างสรรค์และความสนุกจากตัวเราเองในแบบฉบับชาวไทย เพื่อส่งต่อสู่สายตาชาวโลกให้ประจักษ์ถึงความงดงามของประเพณีสงกรานต์กันเถิดค่ะ

 

เรื่องโดย : ฐาปน คำทา Team Content www.thaihealth.or.th

 

Shares:
QR Code :
QR Code