สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย แก้วเดียวกรึ่ม ๆ ก็ถึงตาย
เรื่องโดย อัจฉริยา คล้ายฉ่ำ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลจาก งานแถลงข่าว สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กรึ่ม ๆ ก็ถึงตาย ณ วัดพุทธปัญญา (ข้างกระทรวงสาธารณสุข) ตำบลบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี
ภาพโดย ฐิติชญา สัมปุรณะพันธุ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
สงกรานต์ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน และเป็นช่วงที่ผู้คนออกเดินทาง ใช้รถ ใช้ถนนเยอะกว่าปกติ บ้างก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด บ้างก็ไปเที่ยวพักผ่อน ทำให้บนท้องถนนเต็มไปด้วยการจราจรที่หนาแน่น หากผู้คนขับขี่ด้วย ความประมาท และขาดสติ อาจเปลี่ยนเทศกาลแห่งความสุขเป็นงานที่โศกเศร้า
ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 ที่ผ่านมา พบว่า สาเหตุหลักเกิดจากการขับรถเร็ว และดื่มแล้วขับ โดยรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ขณะเดียวกันการหลับใน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ไม่แพ้กัน
และข้อมูลจากบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบว่า ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวถึง 51% และ 53% ขับขี่ออกไปเสียชีวิตใกล้บ้านในรัศมีเพียง 5 กิโลเมตร
ภารกิจป้องกันและลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เป็นสิ่งที่ สสส. และภาคีเครือข่ายให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มาโดยตลอด จึงเป็นที่มาของการจัดงานแถลงข่าว สงกรานต์ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย เพื่อสร้างความตระหนักในการขับขี่ปลอดภัย โดยทาง สสส.รณรงค์ ต่อยอดจากเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เน้นย้ำผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้ดื่มเพียงแก้วเดียวแล้วขับ อาจส่งผลต่อชีวิตได้
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. และภาคีเครือข่าย ต้องการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญในช่วงปีใหม่หรือสงกรานต์ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ คือ 1.การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2.ขับรถด้วยความเร็ว รวมถึงปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องมีนโยบายและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน
ทั้งนี้ ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ชวนคนไทยรณรงค์สงกรานต์ปลอดภัย ดื่มไม่ขับ-ลดความเร็ว-คาดเข็มขัด-สวมหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ นอกจากนี้ทางภาคีเครือข่ายได้จัดพื้นที่นำร่อง และขยายพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยลดปัจจัยเสี่ยงในถนนตระกูลข้าวกว่า 60 แห่ง และพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้ากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเชิญชวนสื่อเผยแพร่คลิปวิดีโอออนไลน์ “พ่อที่รัก” ที่สะท้อนการเกิดอุบัติเหตุอาจไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวเองแต่ยังกระทบถึงคนรอบข้าง และมีคลิปวิดีโอเรื่องเล่าจากผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากบิ๊กไบค์ และเหยื่อจากคนที่ขับย้อนศร อีกด้วย
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า “สงกรานต์ปี เชิญชวน2565 ได้สร้างความสูญเสียสำหรับบุคคลอันเป็นที่รักไปแล้วถึง 278 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,869 ราย ทำให้มีผู้พิการรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี
ซึ่งสงกรานต์ปีนี้ คาดว่ายังน่าห่วงเช่นเดิม เนื่องจากผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะออกมาเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก หลายพื้นที่เตรียมงานใหญ่ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน และท่องเที่ยว อาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากพฤติกรรมการดื่มแล้วขับ หรือขับรถด้วยความเร็ว”
นายพรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า “อยากให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่ใช้รถใช้ถนน หากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็เกิดอาการมึนเมาได้ มีผลออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้สมองทำงานช้าลง เดินไม่ตรง ความคิดสับสน หากดื่มแล้วขับ เพียงแก้วเดียว…ก็ถึงตายได้”
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้แนะแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ สำหรับประชาชนที่เดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ ดังนี้
- ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม
- ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง
- คาดเข็มขัดนิรภัย
- สวมหมวกกันน็อก
เพราะทุกการสูญเสีย ย่อมมีผู้ที่เสียใจอยู่ข้างหลัง สสส. และภาคีเครือข่ายยังคงเดินหน้าสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง สร้างค่านิยม ดื่มไม่ขับ ลดเร็ว คาดเข็มขัด สวมหมวกนิรภัย