สงกรานต์ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ

                    แม้สถิติจาก ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จะเผยให้เห็นถึงแนวโน้มอุบัติเหตุจาก “ดื่มแล้วขับ” ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์ ที่ลดลงต่อเนื่องตลอด 3 ปี จาก 27.23% (ปี 2565) → 23.97% (ปี 2566) → 22.7% (ปี 2567) —แต่…เรายังห่างไกลจากคำว่า “ศูนย์อุบัติเหตุ” จะเห็นว่า ภาพ 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 2,060 คน เสียชีวิต 287 ราย นี่คือ สัญญาณเตือนที่ต้องไม่เพิกเฉย!

                    จึงเป็นที่มาของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมพลังสังคม จับมือกับเครือข่ายภาคี เช่น สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) จัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิด “ดื่มแล้วขับ อาจเป็นฆาตกร”  งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เมื่อ 2 เม.ย. 2568

                    นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ได้สื่อสารขอให้ทุกคน… ดื่มไม่ขับ สวมหมวก คาดเข็มขัด ขับไม่เร็ว เพื่อปกป้องชีวิตตนเองและผู้อื่นบนถนน โดย เฉพาะดื่มไม่ขับ เพราะการดื่มเหล้ามีผลต่อสมอง ส่งผลให้การดื่มแล้วขับอาจทำให้เป็นฆาตกร ตามด้วยช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัย สวมหมวก และ คาดเข็มขัดนิรภัยระหว่างขับขี่ และไม่ขับรถเร็วเกินไป เพื่อป้องกันความเสียหายต่อตนเอง คนรอบตัว และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน

                    รวมไปถึงสานพลังภาคี สร้างมาตรการความปลอดภัยในเชิงรุกร่วมหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน ประชาชน เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยดูและพฤติกรรมเสี่ยงภายในพื้นที่  อาทิ มีโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า ตั้งด่านชุมชนตรวจเตือน การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น พร้อมขยายผลสร้างมาตรการ “สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์” ในการเล่นน้ำ ให้เกิดความปลอดภัย และไม่สูญเสีย ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวเพิ่มเติม

                    ขานรับโดย นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า “เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ร่วมกับ สสส.ทำงานด้านการสื่อสารกระตุ้นสังคมให้รับรู้ด้านความเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับและรับรู้ถึงผลความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุ ผ่านสื่อรภายใต้แนวคิด “ดื่มแล้วขับ อาจเป็นฆาตกร” พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 7 วันอันตราย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารกำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนต่อไป”

                    “โดยการสนับสนุนจาก สสส.ด้วยมาตรการยกระดับเทศกาลสงกรานต์ให้ปลอดภัย ปลอดเหล้ามากขึ้นผ่านการทำโซนนิ่งให้มีพื้นที่ในกำกับดูแลและเรียนรู้จากประสบการณ์ ที่พบว่าในพื้นที่เล่นน้ำจะมีแต่ความชุลมุน และจราจรที่หนาแน่น เช่น จัดกำลังคนดูแลให้ทั่วถึง งดจำหน่ายแอลกอฮอล์ มีการเช็กความพร้อมของผู้ขับขี่ก่อนขับขี่ว่ามึนเมาหรือไม่ รวมถึงการสื่อสารเสียงตามสายภายในชุมชนต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักในการขับขี่ปลอดภัยเพิ่มเติมด้วย” นายพรหมมินทร์ กล่าว

                    นายดุสิต ศิริวราศัย ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พร้อมสานพลังร่วมกับภาคีเครือข่ายที่หลากหลาย ในทุกระดับ เพื่อบังคับใช้กฎหมายทุกภาคส่วนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และในระดับอำเภอเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติ

                    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองบูรณาการความปลอดภัยทางถนนจะเน้นการใช้กฎหมายควบคู่กับการสื่อสารสร้างจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัยและใช้กลไกทางสังคม เพื่อช่วยกันตักเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่อย่างเข้มข้น ซึ่งจะแบ่งเป็นช่วงต้นและท้ายช่วง 7 วันอันตราย อย่างวันที่ 11-12 และ 17 เมษายนนี้ ที่เป็นช่วงเวลาหลักที่มีการเดินทาง จะเน้นไปในประเด็นของการเดินทางและการขับขี่ที่ปลอดภัย และในช่วงกลางสัปดาห์ 7 วันอันตราย

                    “อย่างวันที่ 13-16 เมษายนนี้ เราจะเน้นเป็นการสื่อสารเชิงรุกกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่  ในการตั้งด่านชุมชนและเคาะประตูตามบ้านต่าง ๆ เพื่อเตือนเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ภายในหมู่บ้าน และชุมชน” นายดุสิต กล่าว