สกส. ผนึก สสส. Ismed สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น จัดมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Social Enterprise
สกส. ผนึก สสส. Ismed สถาบันเชนจ์ฟิวชั่น จัดมหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Social Enterprise ครั้งที่ 1รวมพลเกือบ 30 กิจการเพื่อสังคมแถวหน้าของไทย สร้างพลังเครือข่าย พัฒนาชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่งคง
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค นายมงคล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) กล่าวในการเป็นประธานในพิธีเปิดงาน เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายกิจการเพื่อสังคม ครั้งที่ 1 “ใจถึงใจ…การให้ที่ยั่งยืน” ว่า สกส. ภายใต้การสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Ismed) และสถานบันเชนจ์ฟิวชั่น ภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยโครงการ UnLtd Thailand ได้เฟ้นหา และคัดเลือกผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมของไทย โดยการจัดประกวดแผนกิจการเพื่อสังคม จนกระทั่งได้ผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมเกือบ 30 กิจการ ที่มีใจมุ่งมั่นในการทำธุรกิจเพื่อหวังเข้าไปพัฒนา และแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสังคม ในหลากหลายมิติ ทั้งด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม อาหาร สุขภาพ และการเรียนรู้
“สกส. เล็งเห็นว่า เพื่อเป็นการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมเหล่านี้ให้แข็งแกร่ง สามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ขึ้น เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายกิจการเพื่อสังคมที่มีกว่า 30 กิจการ ทั้งผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ได้สร้างเสริมและสนับสนุน ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อสร้างเสริมองค์ความรู้ร่วมกัน เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดศักยภาพในการดำเนินกิจการของตนเอง” นายมงคล กล่าว
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวภายหลังการมอบรางวัลSocial Enterprise ให้กับเจ้าของกิจการเพื่อสังคม รวม 26 ราย ว่า ปัจจุบันปัญหาสังคมไทยมีความซับซ้อนมากขึ้น การแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้เพียงลำพังแค่ภาครัฐเท่านั้นซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สสส. ได้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดแนวคิดการทำธุรกิจแนวใหม่ขึ้นในสังคมไทย เป็นการทำธุรกิจที่สอดรับกับการแก้ไขปัญหาสังคม โดยที่ผู้ประกอบก็มีรายได้จากการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ถือเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ แนวคิดนี้เรียกว่ากิจการเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาธุรกิจที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ ใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศ เพราะเชื่อว่าการมีสังคมที่ดี จะช่วยให้คนมีสุขภาวะที่ดีตามไปด้วย
“หัวใจสำคัญของกิจการเพื่อสังคม ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1.Passion หรือแรงบันดาลใจ คนทำกิจการเพื่อสังคมต้องมีแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้าที่อยากแก้ปัญหาสังคม เพราะกิจการเพื่อสังคมไม่ใช่งานที่ทำได้โดยง่าย หากไม่มีความตั้งใจจริงแล้วยากที่จะสำเร็จได้ 2.Innovation หรือนวัตกรรม เป็นส่วนที่สำคัญมากต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดที่นอกกรอบ จึงจะสามารถคิดกระบวนการที่แตกต่างและสร้างวิธีการทำงานแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพกว่าวิธีการแบบเดิมได้ และ 3.Business ต้องสามารถนำกระบวนการเชิงธุรกิจมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้การจัดการมีประสิทธิภาพ วัดผลได้ และสามารถพัฒนาให้กิจการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและอย่างมั่นคง” ทพ.กฤษดา กล่าว
สำหรับเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เครือข่ายกิจการเพื่อสังคม ครั้งที่ 1 “ใจถึงใจ…การให้ที่ยั่งยืน” ได้รวบรวมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการตลาด การเงิน และการพัฒนาแบรนด์ เพื่อมาเผยเคล็ดลับ และกลยุทธ์การสร้างสรรค์กิจการเพื่อสังคมให้มีประสิทธิภาพ สามารถแข็งขันได้ในโลกการค้าเสรี ทั้ง นายจิตร์ ตัณฑเสถียร ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์และพัฒนาแบรนด์, นายภัทรพล จันทร์คำ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ และพัฒนาสินค้าและบริการ, นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการลงทุน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ร่วมกับ นพ.ก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุขสาธารณะ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “เป็นสุข” ข้าวและผลิตภัณฑ์อินทรีย์ รุ่นพี่ในวงการกิจการเพื่อสังคม ที่จะมาพูดคุย และสร้างแรงบันดาลใจในการทำกิจการเพื่อสังคมอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเปิดเวทีแลกเปลี่ยนให้ผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมอื่นๆ ได้ทำความรู้จัก และเชื่อมโยงเครือข่ายกัน เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต
ที่มา : สำนักข่าว สสส.