ศรีสะเกษ เดินหน้าปลอดเหล้า ไม่เอาการพนัน


แฟ้มภาพ

เทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์เดินหน้าปลอดเหล้า ไม่เอาการพนัน จัดกิจกรรม “โครงการ งานบุญ งานศพ ปลอดเหล้า ไม่เอาการพนัน ไม่หันหายาเสพติด” หวังลดปัญหาและปลูกจิตสำนึกแก่ประชาชน

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.นายสุบิน งอนสวัน นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการสำรวจสภาวะสุขภาพอนามัยของประชาชนคนไทย ที่ดื่มสุราเป็นประจำ ของกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิจัยระบบสุขภาพ (สวรส.) พบว่า เพศชายมีแนวโน้มพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าเพศหญิง โดยชาย ร้อยละ 17 และหญิง ร้อยละ 2 ที่ดื่มสุราต่อวันในระดับอันตราย คือดื่มเบียร์มากกว่า 2 ขวด หรือดื่มเหล้าขาวมากกว่า 5 เป๊ก (150 ซี.ซี.) หรือดื่มสุราผสมมากกว่า 1 กั๊ก (ครึ่งแบนหรือ 150 ซี.ซี.) ในช่วง 7 ปี จากปี 2539-2546 กลุ่มผู้หญิงวัย 15-19 ปี มีการดื่มเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า คือจากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 5.6

ผลการวิจัยของสถาบันวิจัยยาเสพติดร่วมกับสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า วัยรุ่นหญิงนิยมดื่มสุราต่างประเทศ สุราผลไม้ หรือไวน์คูลเลอร์ เพราะเชื่อว่าแอลกอฮอล์น้อย ดื่มแล้วไม่เมา ซึ่งในต่างประเทศได้มีการวิจัยพฤติกรรมการบริโภคสุราผลไม้ หรือ rtd (ready to drink) พบข้อสรุปว่า เครื่องดื่มประเภทนี้เป็นประตูบานแรก ที่เปิดให้เยาวชนในประเทศเหล่านั้นกลายเป็นผู้ดื่มสุราในที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อวัยวะเสื่อม ทั้งโดยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และฤทธิ์ของสารกระตุ้นที่ผู้ผลิตผสม โดยจะกระตุ้นทำให้อวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ไต สมอง  ทำงานหนักเกินความจำเป็น ส่งผลให้อวัยวะเหล่านี้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร หรือหยุดทำงานเมื่อขาดสารกระตุ้น ดังนั้นคนที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด จึงมักแก่กว่าวัย และเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจหมดสภาพไปได้ง่าย ซึ่งรวมถึงการเสื่อมสมรรถภาพด้วย อีกทั้งยังนำมาซึ่งปัญหาการทะเลาะวิวาท และเป็นเหตุชักนำให้ไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดร้ายแรงอื่นๆได้

จากกรณีปัญหาดังกล่าว เทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์ จึงได้ร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โพธิ์กระสังข์ ร่วมกันจัดกิจกรรม “โครงการ งานบุญ งานศพ ปลอดเหล้า ไม่เอาการพนัน ไม่หันหายาเสพติด” ขึ้น ในเขตเทศบาลตำบลโพธิ์กระสังข์ เพื่อรณรงค์ให้มีการ ลด ละ เลิก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการพนัน ในงานบุญ ประเพณีต่างๆ ทุกประเภท โดยหวังผลในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชน ลดช่องทางในการเข้าถึงยาเสพติดอื่นๆ พร้อมทั้งเพื่อสร้างเสริม ปลูกจิตสำนึกที่ดีแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีสุขภาพที่ดีต่อไป

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code