‘ศรัทธา-ทำดี’ ลิขิตมงคลชีวิตรับ ‘ตรุษจีน’

          ปีใหม่สากลผ่านไปไม่นาน กาลเวลาก็นำพามาให้พบกับ “ตรุษจีน” หรือ ปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนอีกครั้ง ในวันที่ 31 มกราคม 2557 ในช่วงเวลานี้ชาวไทยเชื้อสายจีนต่างเตรียมตัวต้อนรับ ‘ปีใหม่’ ตามธรรมเนียมดั้งเดิมด้วยศรัทธาของตนอย่างคึกคัก…

 

/data/content/19663/cms/fjkloptwxz69.jpg

          ทั้งการจับจ่ายซื้อของเพื่อเตรียมตัวไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษในวันจ่าย (29 มกราคม 2557) การไหว้เจ้า เทพเทวดา บรรพบุรุษในวันไหว้ (30 มกราคม 2557) และการไปเยี่ยมเยียนพบญาติพี่น้องหรือเพื่อนสนิทในวันเที่ยว (31 มกราคม 2557) ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ในปฏิทินของจีน

          โอกาสนี้ อาจารย์หลิน จื้อ เลี่ยง (Lin Zhi Liang) อาจารย์ประจำคณะภาษาไทยและภาษาตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน เล่าถึง ‘เทศกาลตรุษจีน’ ที่ประเทศจีนว่า มีธรรมเนียมปฏิบัติแตกต่างกันไปตามแต่ละภาคและท้องถิ่น แม้ในปัจจุบันจะยังคงพยายามรักษาธรรมเนียมดั้งเดิมไว้ แต่ก็มีหลายสิ่งที่ถูกลดความสำคัญลงไป

          “ก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีน จะต้องปัดฝุ่นทำความสะอาดบ้าน เพราะเชื่อว่า จะช่วยปัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป จากนั้นจะตกแต่งด้วยกระดาษคำอวยพรไว้ที่ประตู หรือหน้าต่างเพื่อเป็นสิริมงคล โดยตัวหนังสือที่นิยมติดไว้คือคำว่า ‘ฝูว’ หรือที่คนไทยเคยได้ยินว่า ‘ฮก’ ซึ่งแปลว่า ‘บุญ’ ลักษณะการติดก็จะเอาขาชี้ขึ้นบน เพื่อสื่อความหมายว่า ‘บุญหล่น’ รวมถึงมีการวาดภาพมงคลฉลองปีใหม่ เพื่อดึงสิ่งดีๆ เข้าบ้านด้วย”

/data/content/19663/cms/fjoqtuy34679.jpg

          โดยในเทศกาลปีใหม่นี้ สมาชิกในครอบครัวที่กระจายกันไปอยู่ที่ต่างๆ จะต้องกลับบ้านมากินข้าวด้วยกัน มีจุดประทัด เพื่อต้อนรับปีใหม่

          “แต่เดิมนั้นจะจุดในคืนข้ามปี เพราะตรุษจีนจะตรงกับหน้าหนาวซึ่งหนาวมาก มีสัตว์ร้ายออกมาหากินตอนกลางคืน การจุดประทัด จึงถือเป็นการจุดไล่สัตว์ร้าย หรือสิ่งร้ายๆ ให้หายไป แต่เดี๋ยวนี้บ้่างก็จุดในเวลากลางวัน และในมณฑลใหญ่ๆ เพื่อป้องกันเหตุไฟไหม้ ก็ได้ห้ามไม่ให้มีการจุดประทัดแล้ว

          พอถึงวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันปีใหม่ ทุกคนก็จะแต่งตัวสีสันสดใส ไม่ใส่สีดำหรือสีขาว เพื่อไปเยี่ยมญาติหรือเพื่อน มีธรรมเนียมแจกอั่งเปาให้กับลูกหลาน เด็กๆ อวยพรให้ผู้ใหญ่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ผู้ใหญ่อวยพรให้เด็กๆ เป็นเด็กดี เรียนเก่ง มีสิริมงคลในอนาคต”

          ด้านธรรมเนียมของการเตรียมอาหาร อาจารย์ชาวจีน อธิบายเพิ่มเติมว่า คนจีนยึดความหมาย สัญลักษณ์ และเสียงที่เป็นมงคล ยกตัวอย่างเมืองทางภาคเหนือจะต้มเกี๊ยว เพราะเกี๊ยวเป็นลักษณะของการห่อการรวมตัวกัน ซึ่งหมายถึงความสามัคคี

          “ส่วนขนมเหนียงเกาที่ทำจากข้าวเหนียวบดแล้วเอาไปนึ่งนั้น ก็ได้รับความนิยมมาก เพราะมีเสียงสอดคล้องกับคำว่าว่าก้าวหน้า”

          ขณะที่ ‘วันไหว้’ เนื่องจากคนจีนให้ความสำคัญกับบรรพบุรษมาก นอกเหนือจากการไหว้เจ้าเพื่อขอพรในตอนเช้าแล้ว ยังมีการจัดเครื่องเซ่นไหว้เพื่อขอพรจากบรรพบุรุษ

/data/content/19663/cms/egimqryz3467.jpg          “จริงๆ ทุกวันนี้คนจีนยังมีศรัทธา และยังคงธรรมเนียมในการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย แม้จะเป็นความเชื่อในสิริมงคล แต่ส่วนหนึ่งคือการแสดงถึงศรัทธา ความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ รวมถึงแสดงความกตัญญูต่อต้นตระกูลที่ทำให้เรามีวันนี้ แต่โดยมากก็รู้กันดีว่า การเริ่มต้นปีใหม่ในแต่ละปี ถ้าเราอยากได้อะไร จะต้องรู้จักลงมือทำ และสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง”

          ด้วยเหตุนี้ เคล็ดชะตาชีวิตของคนเรา จึงมิได้อยู่ที่คำขอหรือคำอวยพร “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้” คิดหวังสิ่งใดขอให้สมหวังสมปรารถนา มีความสุขมั่งคั่ง โชคดีร่ำรวยตลอดปี เสียทั้งหมด

          หากไร้ซึ่งการลงมือ ‘ทำ’ ต้นทางของการสร้างสรรค์ชีวิตตัวเราเอง…

 

 

          เรื่องโดย: ชัชวรรณ ปัญญาพยัตจาติ Team Content www.thaihealth.or.th

Shares:
QR Code :
QR Code