ศธ. รับ 3 ข้อเสนอ สถาบันยุวทัศน์ฯ – ศวปถ. – สสส. เพิ่มหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ภาพประกอบจาก สสส.


ศธ. รับ 3 ข้อเสนอ สสส. - สถาบันยุวทัศน์ฯ - ศวปถ.  เพิ่มหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน thaihealth


สถาบันยุวทัศน์ฯ-ศวปถ.-สสส. หารือ ศธ. เพิ่มหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน เสนอจัดอบรมเพิ่มทักษะ กวดขันความปลอดภัย หลังพบเด็กไทยเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนเพียงปีละ 38 นาที อัตราเสียชีวิตสูงสุดในวัยเรียนช่วงอายุ 10-24 ปี เฉลี่ยปีละ 2,738


นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวภายหลังเข้าพบคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำเสนอข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และยื่นหนังสือข้อเสนอเชิงนโยบายว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน เพื่อขอให้บรรจุหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในการเรียนการสอนในสถานศึกษา


โดยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับ ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน  (ศวปถ.)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.) รวบรวมข้อมูลจากการบูรณาการข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน  3  ฐาน  ได้แก่  กระทรวงสาธารณสุข  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และ  บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ  จำกัด  พบว่า  อัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนปี  2563  รวม  17,831  คน  คิดเป็นอัตราการตายร้อยละ  27.20  ต่อประชากร  1  แสนคน โดยกลุ่มอายุที่เสียชีวิตสูงสุดเป็นเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง  10-24  ปี  จำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง  2,738  คน  เทียบเท่ากับโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษจำนวน  1 โรงเรียน


นอกจากนี้ ผลการศึกษาโครงการวิจัยเพื่อเมืองไทยไร้อุบัติเหตุที่มีการลงสอบสวนเชิงลึก  กรณีการเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์จำนวน  1,000  กรณี  ของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย  พบว่า  การเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ในกลุ่มอายุต่ำกว่า  24  ปี  มีสาเหตุ  3  อันดับแรก  ได้แก่  1.ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ร้อยละ  40  2.ตัดสินใจผิดพลาดขณะเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉิน  ร้อยละ  27  และ  3.ควบคุมรถผิดพลาด  ร้อยละ  24 สะท้อนให้เห็นว่าเด็กและเยาวชนขาดทักษะการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย


ศธ. รับ 3 ข้อเสนอ สสส. - สถาบันยุวทัศน์ฯ - ศวปถ.  เพิ่มหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน thaihealth


นายพชรพรรษ์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้พัฒนาข้อเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการเพื่อสร้างความรู้ความปลอดภัยทางถนนให้กับเด็กและเยาวชน  3 ประเด็นดังนี้   1. พัฒนาหลักสูตร “ทักษะความปลอดภัยทางถนน” และบรรจุเป็นวิชาการเรียนรู้ภาคบังคับในระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จำแนกวิชาตามช่วงวัย โดยระดับประถมศึกษา เรียนรู้เรื่องการเป็นผู้โดยสารอย่างปลอดภัยบนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของผู้ปกครอง หรือรถรับส่งนักเรียน ส่วนระดับมัธยมศึกษา เรียนรู้เรื่องกฎหมายจราจรและการเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะอย่างมีความรับผิดชอบเน้นให้ผู้เรียนสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดจากการใช้รถใช้ถนน 2. จัดกิจกรรมอบรมเสริมการเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา


ซึ่งจากการขับเคลื่อนงานความปลอดภัยทางถนนของเยาวชน พบว่า โรงเรียนมีการสอนเรื่องความปลอดภัยทางถนนเพียง 38 นาทีต่อปีการศึกษา และมีกิจกรรมเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนเพียง 39 นาทีต่อปีการศึกษาเท่านั้น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการอบรมเสริมการเรียนรู้ในหัวข้ออื่น ๆ 3. ขอให้สถานศึกษามีมาตรการด้านความปลอดภัยทางถนน เน้นย้ำการขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นยานพาหนะในการเดินทางยอดนิยมของนักเรียนโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา จึงควรมีการตรวจสอบความปลอดภัยพื้นฐานและการใช้อุปกรณ์นิรภัย เช่น ใบขับขี่ การดัดแปลงสภาพรถที่อันตราย การสวมหมวกนิรภัย 


ศธ. รับ 3 ข้อเสนอ สสส. - สถาบันยุวทัศน์ฯ - ศวปถ.  เพิ่มหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนในโรงเรียน thaihealth


ด้าน คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)  กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่ดูแลการเรียนการสอนของเด็กและเยาวชนโดยตรง จึงขอรับข้อเสนอเชิงนโยบายว่าด้วยความปลอดภัยทางถนน โดยจะนำข้อเสนอไปพัฒนาเป็นนโยบายบังคับใช้ต่อไป โดยกระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงปัญหาความปลอดภัยทางถนนของนักเรียน นักศึกษา เนื่องจากทุกปีมีรายงานการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัว-ผู้ปกครอง แต่อุบัติเหตุทางถนนของเด็กและเยาวชนยังสร้างความเสียหายต่อการพัฒนาการศึกษาไทย สังคม และเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ