ศจย.วิจัยยาเส้น พบยิ่งถูกยิ่งสูบ
ศจย.วิจัยยาเส้น พบยิ่งถูกยิ่งสูบอัดมากกว่าบุหรี่ 3 เท่า
รศ.บัวพันธ์ พรหมพักพิง ภาควิชาพัฒนาสังคม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อควบคุมการบริโภคยาสูบ (ศจย.) ทำการศึกษาเรื่อง “เส้นทางยาเส้น : เกษตรกรผู้ปลูก ผู้ผลิตยาเส้นผู้จำหน่าย และผู้บริโภคบุหรี่มวนเอง” โดยศึกษาพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบมวนเอง (ยาเส้น) ได้แก่ เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ผู้ผลิตยาเส้น ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค ในแหล่งที่ตั้งของโรงงานผลิตยาเส้น 7 จังหวัด อาทิ ร้อยเอ็ดนครพนม เพชรบูรณ์ เชียงราย ฯลฯ พบว่าปัจจุบันมีบุหรี่เส้นวางจำหน่ายหลายยี่ห้อเพราะมีเกษตรกรปลูกใบยาสูบเพื่อป้อนให้โรงงานผลิตยาเส้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในการควบคุมการผลิต และส่งผลให้คนไทยหันมาสูบยาเส้นเพิ่มมากขึ้น
รศ.บัวพันธ์ กล่าวว่า จากการเก็บแบบสอบถามผู้บริโภค 400 คน ใน 4 จังหวัด คือร้อยเอ็ด หนองคาย เพชรบูรณ์ และเชียงรายโดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาย อายุเฉลี่ย 49 ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,568 บาท พบว่าร้อยละ 66 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด จบชั้นประถมศึกษา และมากกว่าครึ่งมีอาชีพเกษตรกรรม โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 71.8 เริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่ในช่วงอายุ 15-30 ปี ชนิดของบุหรี่ที่สูบครั้งแรกคือ ยาเส้น สูงถึงร้อยละ 73.8 ใน 1 เดือน ผู้สูบยาเส้นมวนเองจะมีจำนวนวันที่สูบมากกว่าสูบบุหรี่ซอง 3 เท่า ในแต่ละวันจะสูบยาเส้นเฉลี่ย 16.3 มวน ขณะที่ถ้าสูบบุหรี่ซองอยู่ที่วันละ 4.8 มวน สาเหตุเพราะยาเส้นมีราคาถูกกว่า
“ผู้สูบยาเส้นตระหนักถึงพิษภัยจากการสูบอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เกิดจากความเข้าใจผิดว่าบุหรี่มวนเองมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ซองทั้งนี้จากการสำรวจจึงพบว่า ผู้สูบยาเส้นร้อยละ 52 ไม่เห็นภาพคำเตือนบนซองยาเส้นขณะที่มากกว่าร้อยละ 72 เมื่อเห็นภาพคำเตือนแล้ว ทำให้นึกถึงผลกระทบต่อสุขภาพและภาพคำเตือนมีผลต่อการเลิกยาเส้นของผู้บริโภคถึงร้อยละ 61.8 ดังนั้น หากไม่มีการควบคุมจะทำให้แนวโน้มการบริโภคขยายตัวมากขึ้น จึงต้องเร่งสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ที่ถูกต้อง” รศ.บัวพันธ์กล่าว
นอกจากนี้ รศ.บัวพันธ์ กล่าวอีกว่า ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า รัฐยังขาดกรอบนโยบายและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการควบคุมยาสูบและบุหรี่มวนเอง จึงมีข้อเสนอแนะคือ 1.จำกัดและควบคุมพื้นที่ปลูกยาสูบให้เข้มงวดขึ้น 2.ปรับปรุงระบบภาษีใหม่ ทั้งวิธีการจัดเก็บ ตลอดจนอัตราภาษีที่เหมาะสม 3.กำหนดเกณฑ์มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ยาสูบ และ 4.รณรงค์เพื่อลดจำนวนผู้สูบทั้งบุหรี่ซองและบุหรี่มวนเอง รวมทั้งป้องกันนักสูบหน้าใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25-26 สิงหาคมนี้ ศจย.จะร่วมกับเครือข่ายนักวิชาการ จัดประชุมวิชาการ “บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ” ครั้งที่ 10 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ภายใต้ชื่อ “fctc เพื่อสังคมไทยไร้ควันบุหรี่” โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับยาสูบ และพิษภัยของยาสูบในมิติต่างๆ
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน