วิถีพอเพียง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตามรอยพ่อ
ที่มา : มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย สสม.
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
หลังจากดำเนินกิจกรรมที่ 1 โครงการวิถีพอเพียง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เมื่อวันที่ วันที่ 3 ตุลาคม 2559 ภายใต้โครงการมัสยิดครบวงจร ของแผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย สสม. ครั้งนี้ได้เข้าสู่กิจกรรมที่ 2ของโครงการฯ
คณะกรรมการมัสยิดดารุลฮูดา (บ้านนาตำเสา) นำโดยนายเฉลิม กิจจารักษ์ อีหม่ามมัสยิดดารุลฮูดาและสมาชิกในโครงการวิถีพอเพียง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ จำนวน ประมาณ 40 คน ได้ไปศึกษาดูงาน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านครูชาญณรงค์ ไชยรัตน์ ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช
สถานดังกล่าวเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงที่ใกล้กับชุมชน สามารถเป็นที่ปรึกษาและต้นแบบในการนำมาปรับใช้ในมัสยิดและชุมชนได้อย่างดีเยี่ยม เรื่องราวที่ศึกษาดูงานในครั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องราวของ “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์ทรงตรัสไว้ให้ชาวไทยทั้งผองได้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เรื่องราวที่ดูงานมีรายละเอียดมากมาย ดังนี้
“การลดรายจ่าย โดยเริ่มจากการรู้จักตนเองจากการทำบัญชีครัวเรือน และ การผลิตพลังงานใช้เองในครัวเรือน เช่น พลังงานแก๊สจากเยื่อกระดาษ และจากชีวมวลที่สามารถเอาของเหลือใช้มาประดิษฐ์ ใช้เองได้ >> การผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม >> การผลิตสบู่จากน้ำมันปาล์ม >> การปลูกผักสวนครัว ปลูกสมุนไพรบริเวณบ้าน รวมถึงการปลูกข้าวไว้กินเอง ซึ่งในนาข้าว ก็มีวงจรของกุ้ง หอย ปู ปลา ที่สามารถนำมาเป็นอาหารได้ ถือได้ว่าอุดมสมบูรณ์มาก >> การลดการใช้ปุ๋ยโดยการให้อาหารไส้เดือน ซึ่งไม่เป็นการทำลายธรรมชาติ และธรรมชาติที่ส่งเสริมชีวิตของธรรมชาติด้วยกัน หรือเรียกว่าแบบชีววิถี การสร้างรายได้ โดยการนำสิ่งที่ได้ทำจากการลดรายจ่าย เหลือใช้ก็แจกเพื่อนบ้านบ้าง ขายบ้าง ได้ทั้งมิตรภาพ และรายได้ในเวลาเดียวกัน ในระหว่างการศึกษาดูงาน อ.ชาญณรงค์ ไชยรัตน์ หรือ ครูชาญ ได้ให้ความรู้กับทีมของมัสยิดอย่างเต็มที่ ตั้งใจ และตอบคำถามอย่างชัดเจน พวกเราได้มองเห็นพลังของความตั้งใจของครูชาญ ในการฟื้นฟูแผ่นดิน” ครูชาญ เผย
ครูชาญเผยอีกว่า “นี่เป็นหมู่บ้านแรก รวมตัวกันกู้วิถีแผ่นดินไทยกลับมา ไม่ต้องเอาแผ่นดินไปจ้างคนต่างชาติ มาดูแลแผ่นดินเรา เราจะปกป้องแผ่นดินของเราเอง ด้วยฝีมือคนไทย ด้วยพลังใจของคำว่า วิถีพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระดำรัสไว้ ”
นางสาวปรีดา ไก่แก้ว ได้กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมศึกษาดูงานครั้งนี้ ทำให้เห็นภาพชัดขึ้น อาจารย์ชาญณรงค์ ตอบทุกคำถาม ข้อสงสัย และแนวทางของอาจารย์ สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย โดยเริ่มง่ายๆๆ การทำปุ่ยหมัก จากเศษอาหารครัวเรือนและได้ต้นแบบของการจัดการบริเวณพื้นดินใกล้ครัวเรือน ทำเป็นแหล่งอาหาร เช่น ปลูกข้าวกินเอง
จากการได้ไปศึกษาดูงานครั้งนี้ทำให้อีหม่ามและสมาชิก ได้เกิดแนวคิดที่จะพัฒนาชุมชนโดยจะใช้มัสยิดเป็นพื้นฐานในการพัฒนาชุมชน โดยให้ให้ชาวบ้านใช้พื้นที่ของมัสยิดทำกิจกรรมต่าง เนื่องจากมัสยิดมีพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ และมีพื้นที่ว่างอยู่เยอะพอสมควร และอยากให้ชาวบ้านได้มามีส่วนร่วมในกิจกรรมของมัสยิด อีหม่ามดาวูด กล่าว
อีหม่ามดาวูด ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในตอนแรก โครงการมัสยิดครบวงจร ตนเข้าใจว่า จะเป็นโครงการลักษณะของการพัฒนา ก่อสร้างอาคารหรือมาปรับปรุงอาคารมัสยิด แต่เมื่อได้พูดคุยกับทีมงาน สสม.แล้วก็เข้าใจว่าเป็นโครงการที่เข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้นทั้งในเรื่องของการรณรงค์ให้มัสยิดปลอดบุหรี่ การสร้างห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ รวมไปถึงการส่งเสริมให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันสร้างกองทุน สร้างอาชีพให้เกิดขึ้นในชุมชน และตนเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและมีประโยชน์ต่อชุมชนมากๆโดยเฉพาะหมู่บ้านของตนไม่เคยมีหน่อยงานหรือองค์ใดที่มาส่งเสริมในเรื่องนี้นอกจาก สสม. และขอบขอบคุณคณะทำงาน สสม.ททุกท่านที่ได้หยิบยื่นโอกาสนี้ให้กับชุมชนของตน