วิจัยแฉเด็กร้อยละ 30 เสพสื่อลามก ก่อปัญหาอยากมีเพศสัมพันธ์เสรี
กระทรวงวัฒนธรรม จี้ผู้ผลิตเลิกอ้างสิทธิสร้างละครรุนแรง วิจัยแฉเด็กร้อยละ 30 เสพสื่อลามก ก่อปัญหาอยากมีเพศสัมพันธ์เสรี
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างการมีส่วนร่วมของสังคมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสื่อไม่เหมาะสม ว่า การนำเสนอเนื้อหาของละครหลังข่าว นับวันยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น จัดเนื้อหาไม่ตรงกับเรตติ้ง เช่น น.18 มาฉายในช่วง น.13 เป็นต้น ส่งผลให้เกิดกรณีการเลียนแบบ จนนำไปสู่การเสียชีวิต ดังนั้น ตนเห็นว่า ละครในปัจจุบันควรจะมีเนื้อหาที่เหมาะกับผู้ชมทุกวัย และจัดให้เหมาะสมกับเวลาในช่วงละครหลังข่าว 20.30 น. ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการมักอ้างว่า การนำเสนอเนื้อหามาจากสภาพความเป็นจริงของสังคม และอ้างถึงสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย แต่บางสื่อก็ไม่มีการเคารพจรรยาบรรณในวิชาชีพ ดังนั้น วิชาชีพสื่อ จะต้องมีจรรยาบรรณวิชาชีพควบคู่กับการเคารพกฎหมายด้วย ที่สำคัญควรใช้มาตรการทางสังคม เข้ามาช่วยจัดระเบียบสื่อ
ปลัด วธ. กล่าวอีกว่า สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ร่วมกับสถาบันรามจิตติ ได้รวบรวมสภาพปัญหาของเด็กไทยในมิติวัฒนธรรม รุ่นที่ 2 พบข้อมูลที่น่าสนใจด้านสื่อว่า เด็กไทยส่วนใหญ่ใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับสื่อกับเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบ โดยระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาใช้เวลากับสื่อทั้งโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ ไม่ต่ำกว่าวันละ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งผลวิจัยจากหลายประเทศยังพบว่า เด็กมากกว่าร้อยละ 50 ไม่สามารถทนอยู่ได้โดยไม่มีเครื่องมือสื่อสาร ติดโทรศัพท์มือถือทุกลมหายใจ ที่น่าห่วง คือ เด็กร้อยละ 30 เสพสื่อลามก ส่วนเว็บโป๊ที่เสี่ยงต่อการเป็นสื่อเซ็กส์ออนไลน์ ปัจจุบันมีมากกว่า 106 ล้านเว็บไซต์ ซึ่งผลสำรวจของเอแบคโพลล์ ยังพบว่า สถานการณ์ที่ทำให้เด็กอยากมีเพศสัมพันธ์เกิดจากการดูสื่อลามก ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาเพศสัมพันธ์เสรี โดยช่วง 30 ปี ที่ผ่านมาพบว่า ภาพการใช้อาวุธปืน มีด ทำร้ายกัน ภาพการคุกคามทางเพศที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์ ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กที่ชอบถ่ายคลิปวิดีโอทำร้ายกันผ่านเว็บไซต์ยูทูบ ปัจจุบันมีเผยแพร่คลิปความรุนแรงมากกว่า 3,000 คลิป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ