วิจัยพบยอดเด็กหายพุ่งเกือบสองพันคน
เหตุติดเกม แชตหาคู่
ผลการวิจัยพบช่วง 6 ปีเด็กหายแล้ว 1,523 คน อยู่ระหว่างค้นหา 570 คน แชตออนไลน์หาคู่เสี่ยงถูกล่อลวงมากสุด
พ.ต.อ.(หญิง) พัชรา สินลอยมา หัวหน้าคณะวิจัยโครงการจัดหาความรู้ด้านการสืบสวนติดตามคนหายในประเทศไทย เปิดผลวิจัยในการเสวนา เรื่องแกะรอยคนหายว่า จากการเปรียบเทียบสถิติการรับแจ้งเหตุคนหายตั้งแต่ปี 2546-2552 พบว่ามีจำนวน 1,523 คน โดยในจำนวนดังกล่าวมีการแจ้งว่าพบตัวแล้ว 953 คน ยังคงอยู่ในระหว่างการค้นหาอีก 570 คน
ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญตามที่ปรากฏในสถิติ พบว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการถูกล่อลวงทางเพศ และยังพบอีกว่า ผู้สูญหายทั้งเพศชายและเพศหญิง มีช่วงอายุระหว่าง 8-17 ปี ขณะที่กระบวนการในการจัดการปัญหาคนหายในปัจจุบันยังขาดรูปธรรมที่ชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการติดตามปัญหาดังกล่าวยังทำงานในลักษณะต่างหน่วยต่างทำ
นอกจากนี้ ระเบียบการดำเนินการเกี่ยวกับคนหาย พลัดหลง เป็นระเบียบที่ใช้มาเป็นเวลายาวนาน ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติจริง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง แนวทางปฏิบัติ รวมไปถึงไม่ทราบขั้นตอนและวิธีการสืบสวนติดตามอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ยังพบอีกว่าผู้สูญหายซึ่งอยู่ในช่วง 8-11 ปี นั้นมีจำนวนเด็กผู้ชายสูงกว่าเด็กผู้หญิง เนื่องจากผู้ปกครอง เชื่อว่าเด็กผู้ชายไม่ค่อยมีอันตรายเท่าเด็ก ผู้หญิง ขณะที่กลุ่มมิจฉาชีพซึ่งก่อเหตุหลอกลวงและลักพาตัว ไม่จำกัดเพศของเด็กในวัยดังกล่าว ในขณะเดียวกันกลุ่มเด็กผู้หญิงยังคงเป็นที่ต้องการของกลุ่มมิจฉาชีพ ทั้งตลาดค้าบริการทางเพศ ตลาดค้าแรงงาน รวมไปถึงการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า แนวโน้มของผู้สูญหายซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 11-17 ปีนั้น มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมชอบเล่นเกม อินเทอร์เน็ต การแชตออนไลน์หาคู่ และเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีปัญหาการ ขาดความดูแลเอาใจใส่ ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมเก็บตัว มีโลกที่แคบ ขาด ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
นอกจากนี้ พฤติกรรมของเด็กในลักษณะดังกล่าวเปิดโอกาสให้อาชญากรซึ่งแฝงตัวอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตเล็งเห็นช่องทางในการล่อลวงเด็กในกลุ่มดังกล่าว โดยพื้นที่การสูญหายของเด็ก ครอบคลุมทั้งในเขตเมืองและปริมณฑล
ที่มา:หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
update: 10-11-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย