วางนโยบาย รพ.ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
ที่มา : เว็บไซต์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
สธ.เผยไทยใช้ยามูลค่าสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท โตกว่าจีดีพีประเทศ 5-6% ต่อปี เป็นการใช้ยาเกินความจำเป็นถึง 2,370 ล้านบาท และใช้อย่างมีข้อสงสัยต่อประสิทธิภาพอีก 4,000 ล้านบาท ประกาศนโยบายให้ทุก รพ.ส่งเสริม “การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” กำหนดเป็นแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ สาขาที่ 15
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า รัฐบาลตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ดูแลเรื่องยาในประเทศ มียุทธศาสตร์ 4 ด้าน ได้แก่ การเข้าถึงยา การใช้ยาอย่างสมเหตุผล การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยา ชีววัตถุ สมุนไพร และการพัฒนาระบบการควบคุมยา โดยเรื่องการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลได้ตั้งคณะอนุกรรมการฯ และลงนามความร่วมมือพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU hospital) ระหว่างสำนักงานปลัด สธ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมบัญชีกลาง และกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเข้าร่วมทั้งในและนอกสังกัด สธ. 203 แห่ง
ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับการรักษาด้วยยาอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2559 นี้ได้มีนโยบายให้ทุก รพ.ในสังกัดทุกแห่งดำเนินการส่งเสริม “การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล” ให้จัดทำเป็นคำรับรองในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ระดับ รมว.สธ. ปลัด สธ. จนถึงระดับผู้ตรวจราชการ สธ. ในปีงบประมาณ 2560 เพื่อให้นโยบายพัฒนาการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลแปลงไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผล
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการให้มีการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลขึ้น และกำหนดเป็นแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service plan) สาขาที่ 15 เน้นการพัฒนาระบบและการตระหนักรู้แก่ทุกคนที่อยู่ในวงจรการใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นอย่างไร ซึ่งรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ทั่วโลกมีการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุผลมากกว่าร้อยละ 50 ของการใช้ยา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงและอันตรายจากยา รวมถึงการสิ้นเปลืองทางเศรษฐกิจ สำหรับประเทศไทย ในปี 2555 พบว่า มูลค่าการบริโภคยาของคนไทยสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการที่ผู้ป่วยมีเกินความจำเป็นถึง 2,370 ล้านบาท และเป็นการใช้ยายังมีข้อสงสัยต่อประสิทธิภาพอีก 4,000 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายด้านยาเติบโตใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ร้อยละ 7-8 ต่อปี แต่สูงกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีประมาณร้อยละ 5-6 ต่อปี และที่สำคัญพบการใช้ยาอย่างไม่สมเหตุผลในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับสถานพยาบาลจนถึงชุมชน
ทั้งนี้ “โรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล” ที่เข้าร่วมโครงการข้างต้น ดำเนินการโดยยึดกุญแจสำคัญ 6 ประการ คือ P-L-E-A-S-E ประกอบด้วย 1.Pharmacy and Therapeutics Committee หรือคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบำบัด มีบทบาทหลักในการกำหนดนโยบายและพัฒนาระบบการจัดการด้านยาให้เป็นไปอย่างสมเหตุผลตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก 2.Labeling and Leaflet หรือฉลากยา ที่ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอแก่ผู้ใช้ 3.Essential tools หรือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เช่น คำแนะนำการใช้ยาในกลุ่มโรคต่างๆ การคัดเลือกยา 4.Awareness การสร้างความตระหนักรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย 5.Special population ว่าการใช้ยาในคนสูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วยกลุ่มพิเศษอื่นตามที่สถานพยาบาลกำหนด และ 6.Ethics คือจริยธรรมในการสั่งใช้ยา.