วัยรุ่นยุคใหม่หันหน้าเข้าวัดสวดมนต์ข้ามปี
บรรยากาศกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เริ่มต้นดี ชีวิตดี” ครั้งที่ 3 ที่ท้องสนามหลวง โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และอีกกว่า 30 องค์กร มีประชาชนให้ความสนใจแต่งกายชุดขาวมาร่วมงานจำนวนมาก ต่างจับจองพื้นที่สวดมนต์ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นมาก่อนที่งานจะเริ่มต้นขึ้น
น.พ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ประธานในพิธี กล่าวว่า การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เป็นก้าวสำคัญในการปรับเปลี่ยนค่านิยมเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการลด ละ เลิกอบายมุขและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี 2556 อีกทั้งปีนี้เป็นปีมหามงคล ที่ประชาชนจะได้ร่วมฉลองเฉลิมปีพุทธชยันตี 2,600 ปีแห่งการตรัสรู้และเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่คนไทยจะร่วมกันเฉลิมฉลอง และสวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลด้วยกัน
“น่ายินดีที่พบว่าประชาชนถึงร้อยละ 74.9 อยากส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระทำบุญและสวดมนต์ข้ามปี อธิษฐานให้ครอบครัวมีความสุข ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวแล้ว ยังเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของคนไทย ที่มีต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นพ่อหลวงของเราชาวไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่ง” นพ.ประดิษฐ กล่าว
ด้าน นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สสส.กล่าวว่า มีประชาชนร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีแรกมีประชาชนเข้าร่วมในส่วนกลางกว่า 3,000 คน เป็น 1 แสน คนในปีที่ 2 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 2 แสนคนในปีนี้ ซึ่งนอกจากสนามหลวงยังจัดงานในวัดพระอารามหลวงทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.ขอนแก่น จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.นครศรีธรรมราช และร่วมกับกรมราชทัณฑ์กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จัดสวดมนต์ในทัณฑสถาน 192 แห่ง สถานพินิจฯ และศูนย์ฝึกอบรม 52 แห่งทั่วประเทศเพราะการสวดมนต์ เป็นมงคลหนึ่งในชีวิต ช่วยสร้างจิตให้เกิดกุศล จนก่อเกิดเป็นความสุข ช่วยสร้างพลังอำนาจทางจิตใจ ให้มีสติ สมาธิ ปัญญา และพินิจพิเคราะห์ถึงสิ่งต่างๆ เมื่อความคิดนิ่ง จะทำให้ได้อยู่กับตนเองมาก ซึมซับนำหลักคำสอนในบทสวดมนต์ไปปรับใช้และเปลี่ยนแปลงตนเองในทางที่ดีขึ้น และเสมือนเป็นการหลอมรวมใจของคนในชาติ สร้างความปรองดองสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการ พศ.กล่าวว่า พศ.ได้สรุปภาพรวมการจัดโครงการสวดมนต์ข้ามปี ทำความดี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจัดขึ้นที่วัดกว่า 30,000 วัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศกว่า 400 วัด โดยส่วนกลางจัดที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารและที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ภาคเหนือจัดที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่วัดพระธาตุพนม จ.นครพนมและภาคใต้วัดพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จากการสำรวจที่วัดระดับเจ้าคณะจังหวัด 122 วัด ใน 77 จังหวัด พบว่า มีวัดระดับจังหวัดเป็นศูนย์กลางการจัดงานของแต่ละจังหวัดเฉลี่ยวัดละ 3,000-5,000 คน วัดเจ้าคณะอำเภอ 878 อำเภอ เฉลี่ยวัดละ 2,000-3,000 คน วัดเจ้าคณะตำบล เฉลี่ยวัดละ 1,000-2,000 คน วัดระดับหมู่บ้านเฉลี่ยวัดละ 1,000-1,500 คน นอกจากนี้ สำหรับวัดในต่างประเทศ 400 วัด พบว่ามีประชาชนร่วมประมาณ 50,000 คน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้สำรวจนั้นพบว่าจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้คือประมาณ 30 ล้านคน
ด้าน พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า วัดสระเกศฯ มีประชาชนเข้าร่วมสวดมนต์ประมาณ 1 แสนคน ซึ่งประเมินจากพระผงหลวงพ่อดวงดี 1 แสนองค์ น้ำมนต์ 1 แสนขวด และยันต์ผ้าแดง 1 แสนผืน ที่เตรียมไว้แจกจ่ายแก่ประชาชนผู้มาร่วมสวดมนต์ข้ามปี ส่วนผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้กว่า 80% พบว่าเป็นกลุ่มคนทำงานและวัยรุ่น ซึ่งเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมานับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เยาวชนคนรุ่นใหม่หันมาสวดมนต์กันมากขึ้น
สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ประชาชนยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น สักการะพระบรมเกศาธาตุ จากศรีลังกา พระพุทธชยันตีองค์ดำ นาลันทา จากอินเดีย พระพุทธรูปแกะสลักจากไม้ตะเคียนทอง วัดป่าเขาล้อม จ.ฉะเชิงเทรา การแสดง “พุทธะ ราชะ เดอะมิวสิคัล” แสดงพุทธประวัติผ่านละครเพลง การสวดมนต์บทโพชฌังคปริตรและบทสรรเสริญพระพุทธคุณ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และได้นิมนต์พระเถรานุเถระที่ประชาชนให้ความเคารพนับถืออีก 84 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ให้ศีลให้พรแก่ประชาชนที่มาร่วมงานด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ